ทำไมคนที่มีเงินถึงมีชีวิตดี และมีโอกาสมากกว่าคนอื่นๆ เพราะความขยัน เป็นข้อดี ในการเป็นคนมีเงินเก็บ
ถ้าเราเห็นใครที่ทำงานแข็งขัน เอาการเอางาน และสม่ำเสมอ นั่นคือลักษณะของคนขยัน
ซึ่งตรงกันข้ามกับคนเกียจคร้าน เขาจะทำตรงกันข้ามกับลักษณะที่กล่าวมาแล้ว
ความขยันในตัวคนเป็นต้นทุนอันสำคัญประการหนึ่งที่จะนำความสำเร็จมาสู่ชีวิต
ขณะที่ความเกียจคร้าน นำมาซึ่งความหายนะ และขัดสน ความขยัน หรือความเกียจคร้าน
ไม่ใช่เป็นเรื่องเกี่ยวกับกรรมพันธุ์ หรือเรื่องเวรเรื่องกรรม แต่เป็นพฤติกรรมที่ได้มาจากการเรียนรู้
และการตัดสินใจของปัจเจกบุคคล แต่ละคนสามารถเลือกที่จะเป็นคนเกียจคร้าน หรือเป็นคนขยันได้
บางคนโทษสภาพแวดล้อม โทษอากาศ โทษบุคคลรอบข้าง ฯลฯ
เพื่อจะสร้างเหตุผลสนับสนุนตนเอง ที่เขาขี้เกียจนั้น เขามีข้ออ้าง มีเหตุผลพอรับฟังได้
คนขยันไม่มองดูท้องฟ้า ฝนจะตก แดดจะร้อนหรือหนาว เขาตื่นแต่เช้า ขมีขมัน
ตั้งใจทำงานให้ได้ผลสูงสุดกับเวลา และแรงงานที่เสียไป ความขยันหมั่นเพียรอยู่เคียงคู่กับบุคคลที่มีวินัยในชีวิต
ไม่ใช่คนขยันจะรวยทุกคน แต่ที่แน่นอนคนขยันหางานทำไม่มีวันอด และอนาคตไม่มีวันดับ
แต่สิ่งที่คนขยันจะต้องระมัดระวัง คือจะต้องแยกให้ออกระหว่างความขยัน ความกระตือรือร้น
การเอาการเอางาน กับความรีบร้อน ซึ่งตรงกับภาษาอังกฤษว่า Haste ในพระธรรมสุภาษิต
ซึ่งถือว่าเป็นหนังสือแห่งสติปัญญากล่าวว่า “แผนงานของคนขยันนำมาซึ่งผลกำไร เช่นเดียวกับที่ ความรีบร้อนนำมาซึ่งความขัดสน”
คนขยันที่ชาญฉลาด เป็นคนมีความสุขุมไม่ด่วนตัดสินใจด้วยอารมณ์ ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ของตนเอง
หรืออารมณ์ของกระแสสังคม หลายคนเข้าใจผิดคิดว่า ถ้าเรื่องใดเป็นเรื่องใหญ่
เรื่องสำคัญจะต้องรีบตัดสินใจ แต่มันตรงกันข้าม ยิ่งเรื่องใหญ่ และสำคัญมากเท่าใด
เราจะต้องไม่รีบร้อนในการตัดสินใจทำ เพราะความผิดพลาดหมายถึงความเสียหายอย่างใหญ่หลวง
เราอยู่ในยุคที่ต้องช่วงชิงโอกาส เรามีคนมากมายที่เสนอตัวชี้นำโอกาสที่ดูเหมือนดีสุดยอด
คำท้าชวนดูจะแตะใจและเคลื่อนความรู้สึก แต่ช้าก่อนจงมีสติ มีภาษิตสอนใจว่า
“วัดผ้าสองครั้งแล้วตัดดีกว่าวัดครั้งเดียวแล้วตัดสองครั้ง” ภาษิตชาวรัสเซียพูดว่า
ก่อนคุณจะกระโดดลงสระ ขอไปหยั่งเท้าดูก่อนว่า มันตื้นหรือลึกขนาดไหน