นิทานเรื่องที่ 1
สมหวังไม่ชอบกินไข่ ทุกครั้งที่ได้ไข่มา จึงยกให้สมนึกกิน แรกๆ สมนึกก็รู้สึกขอบคุณสมหวัง แต่นานๆ เข้า สมนึกก็เคยชิน
เมื่อเกิดความเคยชิน ก็เหมือนกับเป็นหน้าที่ ที่สมหวังต้องทำ จนมาวันหนึ่ง สมหวังเอาไข่ให้สมชาย สมนึกก็อารมณ์เสีย
โดยลืมไปว่า ไข่นี้เป็นของสมหวัง สมหวังจะให้ใครก็ได้ สมนึกจึงทะเลาะกับสมหวังเพราะเรื่องนี้ แล้วก็เลิกคบกัน
นิทานเรื่องที่ 2
วันนี้อากาศร้อนมาก เพื่อนๆ หลายคนจึงออกไปเดินเล่น เมื่อไปถึงแม่น้ำ ทุกคนต่างก็เอาขาลงไปแช่น้ำคลายร้อน
ปรากฏว่า รองเท้าของสมศรีลอยตามน้ำไป ระหว่างทางเดินกลับบ้าน พื้นถนนนั้นร้อนมาก และต้องเดินอีกไกล
สมศรีจึงขอให้เพื่อนๆ ช่วย แต่ทุกคนมีรองเท้าแค่คู่เดียว สมศรีไม่สบอารมณ์ เพราะเธอชอบขอให้คนอื่นช่วยจนเป็นนิสัย
แค่ทำเป็นงอนก็จะมีคนยื่นมือเข้าช่วยเสมอ แต่ครั้งนี้กลับไม่มีสักคน เธอจึงคิดว่า เพื่อนๆ ทุกคนใช้ไม่ได้ เพราะไม่ยอมช่วยเหลือเธอ
สมปองจึงบอกสมศรีว่า “เธอต้องจำไว้นะ ไม่มีใครมีหน้าที่ต้องช่วยเธอ ที่ช่วยเธอเพราะเป็นเพื่อนกัน ไม่ช่วยก็ไม่ผิด”
หลายครั้งที่เรา มักจะหวังให้คนอื่นดีต่อเรา ตอนแรกก็ซาบซึ้ง แต่เมื่อเวลาผ่านไป กลับกลายเป็นความเคยชิน
เคยชินที่คนอื่นดีต่อเรา เหมือนเป็นหน้าที่ของเขา ที่ต้องทำดีต่อเรา พอวันหนึ่งหากเขาเปลี่ยนไปจากเดิม
เขาอาจจะดีต่อเราน้อยลง หรือช่วยเหลือเราน้อยลง เราก็โมโห ทั้งที่ไม่ใช่ความผิดของเขาเลย
นิทานเรื่องที่ 3
แพะตัวหนึ่ง เจอหมาป่า หมาป่าจะกินแพะ แพะจึงใช้เขาสู้กับหมาป่า พลางตะโกนขอให้เพื่อนๆ ช่วย
เมื่อวัวหันมา มองเห็นหมาป่า ก็วิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อม้าหันมา มองเห็นหมาป่า ก็วิ่งหนีตามไปอีกตัว
เมื่อลาหันมา มองเห็นหมาป่า ก็เดินหนีไปอย่างเงียบๆ
เมื่อหมูผ่านมา มองเห็นหมาป่า ก็หายตัวไปทันที
เมื่อกระต่ าย ได้ยินเสียงหมาป่า ก็วิ่งหนีแซงเพื่อนๆ ไปทุกตัว
สุดท้ายพอหมารู้เข้า จึงรีบวิ่งมาช่วยแพะสู้กับหมาป่า
หมาป่าเห็นว่ามีหมามาช่วย จึงวิ่งหนีไป แพะก็เลยรอดต า ย
พอกลับมาถึงบ้าน เพื่อนๆ ทุกตัวที่หนีมาก่อน เข้ามารุมล้อมแพะ
วัวพูดว่า “ทำไมไม่บอก ข้าจะใช้เขาของข้า แ ท งทะลุท้องมัน”
ม้าพูดว่า “ทำไมไม่บอก ข้าจะใช้เกือกของข้า กระทืบมัน”
ลาพูดว่า “ทำไมไม่บอก ข้าจะร้องเสียงดังๆ ให้หมาป่าขวัญกระเจิง”
หมูพูดว่า “ทำไมไม่บอก ข้าจะพุ่งชนให้มันตกเขาไปเลย”
กระต่ า ยพูดว่า “ทำไมไม่บอก ข้าวิ่งเร็ว จะได้ส่งข่าวขอความช่วยเหลือ”
ในการพูดคุยกันอย่างเมามันนี้ มีอยู่ตัวเดียวที่ไม่พูดอะไรเลย นั่นคือ “หมา”
มิตรภาพที่แท้จริง ไม่ใช่คำพูดแสนหวาน แต่เป็นมือที่ยื่นมาช่วยยามคับขัน
ขอขอบคุณ Forward Line