ห้ามใจตัวเองให้ได้ ถ้าไม่เหลือกินเหลือใช้ อย่าซื้อ 5 สิ่งนี้เลย

ห้ามใจตัวเองให้ได้ ถ้าไม่เหลือกินเหลือใช้ อย่าซื้อ 5 สิ่งนี้เลย

หากคุณอยากมีชีวิตที่ดีขึ้น ต้องรู้จักยับยั้งชั่งใจตัวเองให้เป็น ซื้อเพราะต้องใช้ ไม่ใช่ซื้อเพราะลดราคา

อย่าตกเป็นทาสการตลาด เก็บออมเงินไว้สร้างตัวดีกว่า เพราะวันข้างหน้าเราไม่รู้เลยว่า จะเกิดอะไรขึ้นอีก

5 สิ่งต่อไปนี้ ถ้าเลิกได้ก็เลิกเถอะนะ แล้วชีวิตของเราจะดีขึ้นมาก แต่ถ้าเลิกไม่ได้ อย่างน้อยลดลงบ้างก็ยังดี

1. ซื้อสินค้าที่อยู่ในช่วงโปรโมชั่นลดกระหน่ำ

ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋า เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องประดับ หรืออะไรก็ตาม อย่ายอมให้ของลดราคา มีอำนาจเหนือเราได้

การตลาดทุกวันนี้ฉลาดมาก ยอมลดกำไรลงนิดหน่อย แล้วเปลี่ยนมาจัดโปรโมชั่นแบบจำกัดเวลา

เพื่อกระตุ้นยอดขาย และกดดันให้เรารู้สึกเสียดาย หรือทำให้รู้สึกกลัวว่าจะพลาดโอกาสสำคัญ

เช่น ลดวันเดียวเท่านั้น, ของมีจำนวนจำกัด, ด่วน ช้าหมด อดแน่นอน อะไรประมาณนี้

ทั้งที่ความจริงแล้ว โปรโมชั่นแบบนี้มีทุกเดือน จัดทั้งปีทั้งชาติอยู่แล้ว ใครที่เห็นแก่ของถูก ก็ติดกับเข้าเต็มๆ

ที่เห็นบ่อยเลย บางคนซื้อมาใช้แค่ไม่กี่ครั้ง ก็ยัดเข้าห้องเก็บของกองพะเนินเทินทึก เหมือนซื้อขยะเข้าบ้าน

พอได้ครอบครองสมใจอยากแล้ว หลายคนกลับต้องมานั่งนึกเสียดายตังค์ทีหลัง เพราะที่ซื้อมามันไม่จำเป็นจริงๆ

เสียท่าเพราะปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผลแท้ๆ เอาใหม่นะ จากนี้ไปอย่าให้โปรโมชั่นมากดดันชีวิตเราอีก

ก่อนจะซื้อต้องถามตัวเองให้แน่ใจก่อน ว่าเรา “จำเป็นต้องใช้จริงๆ” หรือแค่ “อยากได้” เพียงเพราะมันถูกกันนะ?

2. กินกาแฟราคาแพงแทบทุกวัน

“รายได้น้อย แต่รสนิยมสูง” เป็นคำที่ขอพูดแบบตรงๆ เห็นหลายคนที่มีรายได้น้อย แต่นิยมกินกาแฟยี่ห้อดัง

หาตังค์ได้วันละไม่กี่ร้อย แต่หมดกับค่ากาแฟแก้วละเป็นร้อย ก็ลองคำนวณดูว่าเราต้องทำงานกี่ชั่วโมง เพื่อกาแฟ 1 แก้ว

เดือนนึงหมดไปกี่พัน แล้วเราต้องทำงานกี่วัน เพื่อจ่ายค่ากาแฟสำหรับ 1 เดือน พอคิดแล้วน่าตกใจไม่น้อยเลยนะ

แต่สำหรับคอกาแฟ ถ้าจะเลิกคงไม่ใช่เรื่องง่ายแน่ๆ ลองเปลี่ยนมาบริโภคกาแฟที่ถูกลงหน่อย บางร้านรสชาติดีไม่แพ้ร้านดังเลย

หรือจะลองซื้อเมล็ดกาแฟคั่ว มาชงกินเองก็ได้ เลือกเครื่องชงถูกๆ มีคนสอนวิธีการชงกาแฟสดเยอะแยะเลยในอินเตอร์เน็ต

รับรองว่าประหยัดได้อีก (แต่จะอร่อยแค่ไหน ก็อยู่ที่ฝีมือของเราแล้วล่ะ) ถ้าได้ลองทำเองสักครั้ง อาจจะติดใจก็ได้นะ

3. เล่นหวยทุกงวด

ทุกวันที่ 1 หรือ 16 ของแต่ละเดือน ต้องเสี่ยงโชคกันหน่อยแล้วเผื่อจะฟลุ๊ค หลายคนอาจจะคิดแบบนี้

แต่เชื่อไหมว่าการซื้อหวยเนี่ย คือสาเหตุสำคัญที่ทำให้เราสูญเงินโดยเปล่าประโยชน์ ซื้อเสื้อผ้ายังได้ใส่

ซื้อกาแฟยังได้กิน แต่ว่ากระดาษ 1 ใบเนี่ย ไม่ได้อะไรเลย มีแต่ความหวังลมๆ แล้งๆ หลอกให้หลงดีใจ

สิ่งที่เราเสียไปมันไม่ใช่แค่เงิน แต่มันคือหยาดเหงื่อแรงกาย และเวลาที่เราทำงานหนักเพื่อแลกมันมา

ลองคิดดูดีๆ ว่า มันคุ้มค่าแล้วจริงหรือ? กับการเดิมพันที่แทบไม่มีโอกาสชนะเลย

4. ดื่มฉลองทุกสัปดาห์

ทำงานหนักมาทั้งอาทิตย์ ก็อาจจะต้องผ่อนคลายกันบ้าง แต่การผ่อนคลายนั้นไม่จำเป็นต้องฉลอง

ด้วยการกินดื่มอย่างสุดเหวี่ยงเสมอไป ศุกร์เมา เสาร์นอน อาทิตย์ถอน จันทร์ลา นี่เป็นวิธีคิดที่ไม่ถูกต้อง

เพราะการปาร์ตี้นั้นสิ้นเปลืองเงินเป็นอย่างมาก บางคนพอเริ่มเมาได้ที่ทีไร ใจป้ำ เปย์หนักทุกที

มันยังมีการผ่อนคลายความเหนื่อยล้าอีกหลายวิธี ที่จะช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายได้อยู่นะ

5. ผ่อนสินค้าที่ไม่จำเป็น

แม้ว่าการผ่อนสินค้า จะช่วยให้เราสามารถนำเงินก้อนไปหมุนก่อน หรือใช้ลงทุนทำอย่างอื่นได้

แต่ถ้าไม่รู้จักประมาณตน ไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจตัวเอง อยากได้อะไรก็ผ่อนไปหมด ผ่อนจนเกินตัว

รับรองว่าเดือดร้อนภายหลังแน่ ปัญหาจะไม่เกิดหรอก ถ้าเรามีรายได้มั่นคง และมากเพียงพอ

แต่ถ้ามีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้น เช่น โดนลดโอที โดนตัดโบนัส หรือหนักหน่อยคือ ตกงาน

หักลบค่าใช้จ่ายแล้ว รายได้ติดลบเมื่อไหร่ จะรู้ซึ้งถึงคำว่า “การไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ”

ดังนั้น ก่อนจะผ่อนอะไร ต้องคิดให้ดีๆ อย่าคิดแค่ว่า “ไหวน่ะ” เพราะอนาคตไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

เรียบเรียงโดย : จักรวาล อ่านสนุก