ชีวิตคนเราจะสำเร็จหรือล้มเหลว ส่วนมากอยู่ที่ทัศนคติ เพราะมุมมองที่คุณมี จะส่งผลต่อพฤติกรรมของคุณในอนาคต
ทัศนคติดีๆ จะพาคุณไปสู่จุดหมายที่ถูกต้อง ส่วนทัศนคติพังๆ จะทำให้ชีวิตของคุณ ไม่สามารถก้าวหน้าไปไหนได้ไกล
วันนี้เราจะพาคุณไปดูว่า ทัศนคติแบบไหนบ้าง ที่จะทำให้คุณมีปัญหาการเงิน เป็นหนี้มากมายจนโงหัวไม่ขึ้น
1. อยากได้อะไร ต้องได้ทันที
สมัยก่อนอาจมีสุภาษิตที่ว่า “มีสลึงพึงบรรจบ ให้ครบบาท” แต่คงนำมาใช้สมัยนี้ไม่ได้แล้ว เพราะปัจจุบันมีแต่ค่านิยมที่ว่า “ของมันต้องมี”
อยากได้อะไร ก็ต้องได้ทันที สมัยนี้อะไรๆ ก็ต้องง่ายและเร็ว ทัศนคติแบบนี้จะทำให้หลายๆ คนมีนิสัยใช้จ่ายเกินตัว และไม่รู้จักอดทนรอ
จนต้องนำเงินในอนาคตของตัวเอง มาสนองความอยากในปัจจุบัน ทำให้หลายคนที่มีทัศนคติแบบนี้ มักจะ “เป็นหนี้ต่อ ไม่รอแล้วนะ”
2. เงินเท่านั้น ที่ซื้อความสุขได้
บางคนมองว่าเงินเป็นยารักษาเยียวยาความทุกข์ เงินเท่านั้นที่สามารถซื้อความสุขได้ แต่จริงๆ แล้ว เงินเป็นเพียง “ยาแก้ปวด”
ที่บรรเทาความทุกข์ได้แค่ชั่วคราวเท่านั้น คนที่มีทัศนคติแบบนี้ ทุกครั้งที่ไม่สบายใจ ก็มักจะใช้เงินซื้อความสุขจนเป็นนิสัย
เช่น ซื้อของแพงๆ กินร้านหรูๆ เพื่อปลอบใจตัวเอง สุดท้ายแล้ว เมื่อเงินไม่พอจ่ายก็ไปกู้มา บางคนถึงขั้นต้องไปกู้หนี้นอกระบบ
พอเป็นหนี้ ก็ทำให้ยิ่งเป็นทุกข์ พอเป็นทุกข์ ก็ยิ่งใช้เงินวนไปอีก ความสุขที่แท้จริง อาจไม่จำเป็นต้องใช้เงินหรอกนะ
คุณเลือกเองละกัน ว่าจะค้นหาความสุขนั้นให้เจอ หรืออยากเป็นหนี้ท่วมหัวแบบนี้ต่อไป
3. ไม่มีเงิน เท่ากับ ไม่มีคุณค่า
อย่าแก้ปมของตัวเอง ด้วยการใช้เงินแก้ปัญหาเพียงอย่างเดียว บางคนชอบมองว่า ถ้าไม่มีเงินก็จะไม่มีคุณค่า
คนเหล่านี้มักจะนำคุณค่าของตัวเองไปผูกกับวัตถุสิ่งของ พอเห็นคนอื่นเค้ามีกันก็อยากจะมีบ้าง
ถ้าไม่ใช้ของแพงเหมือนคนอื่นก็จะไม่ค่อยมั่นใจ บ่อยครั้งที่ทัศนคติแบบนี้ ทำให้บางคนซื้อสิ่งของที่ตัวเองไม่ได้ต้องการ
ด้วยเงินในอนาคต (หนี้) เพื่อที่จะเอาไปอวด “คนที่ไม่เคยมองเห็นคุณค่าที่แท้จริง ของพวกเขาเลย”
4. เที่ยวบ่อย กินหรู ดูแพงในโซเชียล
หลายคนต้องเคยให้รางวัลตัวเอง ด้วยการไปเที่ยวที่ต่างๆ กินอาหารมื้อละเป็นพัน ประสบการณ์สุดยอดแบบนี้ จะไม่แชร์ลงโซเชียลได้ยังไง
ทัศนคติแบบนี้น่ากลัวมากๆ เพราะหากเรามองว่าการเที่ยวบ่อย กินหรู และการมีรสนิยมแพงๆ แบบนี้เป็นเรื่องปกติ เราก็จะทำมันบ่อยขึ้น
แถมถ้ายิ่งได้ไลค์เยอะแล้ว ก็ยิ่งทำให้เราเสพติดพฤติกรรมแบบนี้ จนอาจถึงวันที่เรากู้เงินมาโชว์รวยก็เป็นได้ เคยมีคนกล่าวเอาไว้ว่า
“ความสุขที่เกินพอดี ย่อมมีจุดจบที่รุนแรงเสมอ” เพราะฉะนั้น พิจารณากันให้ดีว่า สิ่งที่คุณกำลังจะสร้างนั้น คือหนี้ หรือความสุข
ความสุขบางครั้งก็ไม่จำเป็นต้องใช้เงิน และคุณค่าก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับสิ่งของที่คุณมี “แต่เป็นสิ่งที่คุณทำ” ลองพักผ่อนอยู่บ้าน
กินข้าวกับคนที่คุณรัก ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง และทำสิ่งดีๆ ให้คนรอบข้างบ้าง เท่านี้ก็จะทำให้คุณมีความสุขได้ โดยที่ไม่ต้องเป็นหนี้
