แนวคิดที่ต้องรู้ ก่อนวัย 40 ทำได้เกินครึ่งคุณก็รวยแล้ว

แนวคิดที่ต้องรู้ ก่อนวัย 40 ทำได้เกินครึ่งคุณก็รวยแล้ว

1. คนส่วนใหญ่เชื่อว่า ถ้าทำเหมือนเดิมซ้ำๆ สุดท้ายผลลัพธ์จะเปลี่ยน

สังเกตไหมว่า คนส่วนใหญ่มักจะชอบทำอะไรๆ เหมือนเดิม ทำไปเรื่อยๆ โดยหวังว่า การทำเหมือนเดิมนี่แหละ สุดท้ายจะเปลี่ยนให้เขารวย

ไม่ครับ..การทำเหมือนเดิม ผลลัพธ์ก็ออกมาเหมือนเดิม คุณต้องเปลี่ยนสิ่งที่ทำ วิธีที่ทำ อะไรที่เคยทำ ถ้ายังไม่เวิร์ค ก็ต้องเปลี่ยน

2. คนส่วนใหญ่เชื่อว่า วันนี้ยอมทำงานหนัก พอถึงเวลาเกษียณแล้วจะสบาย

ไม่จริง! สิ่งที่ทำมันจะส่งผลต่อชีวิต แบบมีเหตุมีผลอยู่แล้ว ถ้าเราทำงานหนักแล้วชีวิตยังไม่สบาย บั้นปลายก็คงไม่ต่างกัน

ถ้าเกษียณแล้วทำงานน้อยลง มันก็แค่ทำงานลดลงครับ แต่อาจเครียดกับเรื่องเงินมากขึ้น ถ้าอยากสบาย ต้องเรียนรู้วิธีการทำงานแบบใหม่ด้วย

3. คนส่วนใหญ่คิดว่า คนรวยเพราะมีรายได้เยอะ และมีเงินก้อน

ทำให้คนส่วนใหญ่หาวิธีได้รายได้เยอะๆ เงินเป็นก้อนๆ บางคนก็เลยคิดว่า ต้องถูกหวย, รับสินบน, โกง ฯลฯ แต่ในความจริง

คนรวยเพราะเขามีวิธีทำเงินอีกรูปแบบ คือ “มุ่งสร้างกระแสเงินสด” ลองคิดซิว่า ทำอะไรก็ได้ที่ทำให้เงินไหลเข้ามาหาเราเรื่อยๆ

ไม่ต้องเยอะแต่สม่ำเสมอ อันนี้แหละวิธีคิดคนรวย สร้างให้เช่า สร้างแล้วเก็บค่าเข้า ทำแล้วค่อยๆ เก็บเงินจากสิ่งที่ทำ

ปลูกแล้วรับผลเรื่อยๆ “ทำทีเดียว แต่รับเงินเรื่อยๆ ไม่ต้องเยอะ แต่วิธีนี้แหละ..รวยแน่นอน”

4. คนส่วนใหญ่คิดว่า เรียนสูงๆ หางานมั่นคง จะการันตีชีวิตที่มั่นคง

แต่ในความเป็นจริง ความมั่นคงไม่ได้ขึ้นอยู่กับคนอื่น ไม่ได้ขึ้นกับบริษัท ทั้งหมดขึ้นอยู่ที่ตัวเราเองครับ กลับมาที่โจทย์ “ทำครั้งเดียว แต่ได้เรื่อยๆ”

นี่ต่างหากที่คนส่วนใหญ่ไม่ทำ สิ่งที่คนส่วนใหญ่คิดว่ามั่นคง จริงๆ คือกับดัก มันคือภาพลวง ของจริงต้อง “เหนื่อยในสิ่งที่ถูกต้องครั้งเดียว เพื่อให้ได้เงินเรื่อยๆ”

5. คนส่วนใหญ่คิดว่าหุ้น..เสี่ยง

แต่จริงๆ สิ่งที่เสี่ยงกว่าหุ้นคือ “เงินฝาก” เพราะมูลค่ามันลดลงเรื่อยๆ เงินก็เหมือนน้ำแข็ง วางไว้เฉยๆ มูลค่าก็จะละลาย

คนส่วนใหญ่ที่ยากจน ไม่ใช่เพราะหาเงินไม่เป็น ใครๆ ก็หาเงินเป็น แต่ที่ยากจน เพราะใช้เงินทำงานไม่เป็น

การใช้เงินทำงาน ก็คือเอาเงินไปซื้อสินทรัพย์ ที่ซื้อครั้งเดียวแล้วให้เงินเราเรื่อยๆ เช่น หุ้นปันผล

หุ้นไม่ได้เสี่ยง แต่วิธีการเล่นหุ้นของคนส่วนใหญ่ต่างหากที่เสี่ยง เพราะเขาไม่ได้ซื้อลงทุน แต่เขาเก็งราคาเหมือนการพนัน “ที่จนก็เพราะเล่นผิดวิธี”

6. หาเงินมาแล้ว เก็บ ประหยัด ถึงจะรวย วิธีคิดนี้โบราณแล้ว

ทุกวันนี้หาเงินได้ ต้องเอาไปลงทุนครับ ลงทุนคือการซื้อสินทรัพย์ ยุคนี้ต้อง “จ่ายเงินเพื่อให้รวยขึ้น” เพราะเก็บเงินมีแต่จนลง

จ่ายฉลาด จ่ายซื้อ Asset จ่ายลงทุน จ่ายซื้อสิ่งที่เพิ่มมูลค่า แล้วค่อยเก็บสะสม นี่คือวิธีคิดของคนรวยครับ

7. เรียนให้สูง หาความรู้ให้มาก จะได้โอกาสดีในชีวิต

เดี๋ยวนี้ต้องทำตรงกันข้าม แทนที่จะหาความรู้ (ซึ่งใครๆ ก็หาความรู้) ให้ “สร้างความรู้”

การสร้างความรู้ คือต้องคิดองค์ความรู้ใหม่ วิธีนี้ก้าวหน้าไปอีกขั้น เพราะก่อนคุณจะสร้างความรู้ คุณต้องขวนขวายหาความรู้ก่อน

ลองเปลี่ยนโจทย์เป็นว่า “ฉันจะสร้างความรู้อะไรให้คนรอบข้าง เก่งขึ้น ชีวิตดีขึ้น รวยขึ้น”

8. การให้..ทำให้เราจนลง

อันนี้ล้าสมัยสุดๆ ใครอยากมีโอกาสในชีวิตมากขึ้น จงทำเพื่อคนอื่น คิดเพื่อคนอื่น ทำอะไรก็ได้เพื่อคนอื่น

นั่นแหละการสร้างโอกาสในชีวิตให้ตัวเราเอง ทุกวันนี้เราถูกตัดสินความสามารถ จากการทำเพื่อคนอื่น

“ใช้แรงให้น้อย แต่สร้างประโยชน์เพื่อคนอื่นให้เยอะ นี่คือความเก่งในยุคนี้”

9. คนส่วนใหญ่คิดว่า การทำอะไรใหม่ๆ คือความเสี่ยง

ถูกต้อง! การทำอะไรใหม่ๆ มีความเสี่ยงตรงที่ สิ่งที่เราทำจะไม่ได้รับการยอมรับ ทำให้คนส่วนใหญ่ที่กลัวการถูกปฏิเสธ

ยอมทำสิ่งเดิม จนในที่สุดก็กลายเป็นคนหลงยุค ล้าสมัย รายได้ลดลง ตลาดเล็กลง และสิ่งนั้นก็ต า ยไปในที่สุด

การวิ่งเข้าหาความเสี่ยง ทำอะไรใหม่ๆ กล้าที่จะก้าวออกจากพื้นที่ปลอดภัยต่างหาก ที่จะให้รางวัลแก่ชีวิตของเรา

10. คนส่วนใหญ่คิดว่า เก็บเงินให้ลูกมากๆ แล้วจะดี

ผิดอย่างแรง สิ่งที่พ่อแม่ยุคนี้ทำร้ายลูกมากที่สุด คือเก็บเงินมากๆ ให้ลูก แม้ว่าเงินจะสามารถแก้ปัญหาชีวิตได้ก็จริง

แต่เงินสามารถแก้ปัญหาให้คนที่หาเงินเป็นเท่านั้น ส่วนคนที่หาเงินไม่เป็น ยิ่งมีเงินมาก ยิ่งซวย

เพราะเงินก็เหมือนปืน เหมือนอาวุธ มันจะมีประโยชน์ก็ต่อเมื่อเราใช้เป็น และใช้ให้ถูกทาง

การเก็บเงินให้ลูกไม่ได้ผิด แต่การเลี้ยงโดยให้แต่เงินนั่นแหละ ที่ทำร้ายลูกอย่างแรง

ถ้าเลือกได้ ควรให้โอกาสในการหาเงิน ดีกว่าให้เงินใช้ เพราะโอกาสนั้นจะเป็นสะพาน

ให้ลูกเรียนรู้ที่จะหาเงินได้เอง “ให้ลูกรับผิดชอบธุรกิจ สอนให้เขาหาเงินเอง นั่นคือทางที่ถูกต้อง”

ขอบคุณที่มา : M e k j a m e s F r e e d o m s