คำว่าออกจากงาน มันมีหลายสาเหตุ แต่เชื่อว่าชั่วโมงนี้ เวลานี้ ไม่มีใครอยากตกงาน ไม่มีใครอยากทิ้งรายได้ที่มั่นคง
แม้ว่าบางคนจะได้น้อยนิดก็ตาม แต่มันก็เป็นรายได้ที่มั่นคง อย่างน้อยก็มีให้เราทุกๆ เดือน โดยที่เราไม่ต้องกังวลว่า เดือนนี้จะมีเงินไหม
เดือนหน้าจะกินอะไร แต่ออกจากงานกันเพราะอะไร เราลองมาดูกันว่า สาเหตุนั้นมีอะไรบ้าง และเขาแก้ปัญหากันอย่างไร
1. สาวออฟฟิศผู้บึกบึน และอดทน
เธอเพิ่งลาออกจากงานได้ไม่นาน และตอนนี้ยังไม่ได้งานใหม่ สาเหตุของการออกจากงาน เธอคนนี้บอกว่า เพราะเนื้องานที่ทำ กับเงินเดือนไม่สมดุลกัน
และงานค่อนข้างมีความกดดันพอสมควร เนื่องจากผู้บริหารเป็นคนเจ้าระเบียบ จุกจิก หยุมหยิม จะมีกฎให้พนักงานต้องทำตาม ประหนึ่งว่าอยู่โรงเรียน
ซึ่งตัวเธอนั้นต้องดูแลเรื่องเหล่านี้ และแน่นอนว่า กลายเป็นมีปัญหากับพนักงานด้วยกัน เพราะส่วนใหญ่ พนักงานชอบแหกกฎ ทำให้โดนนินทา
และไม่ให้ความร่วมมือ อีกทั้งภาวะกดดันสูง ทำให้เครียดทุกวัน เหนื่อยและรู้สึกว่าไม่คุ้มกับเงินเดือน ดังนั้น การลาออกไปต า ยเอาดาบหน้า
จึงเป็นทางออกที่เธอเลือก แม้ว่าจะยังไม่มีงานรองรับ แต่อย่างน้อยการออกมามันทำให้สบายใจ ไม่เครียด ซึ่งตอนนี้ก็ได้รับเงินชดเชยของประกันสังคม
และได้ทำการลงทะเบียนหางานใหม่ ซึ่งเพิ่งผ่านมาได้เดือนเดียว แต่เธอเชื่อว่าอีกไม่ช้าจะได้งาน เพราะมีหลายแห่งติดต่อมา เพื่อเรียกไปสัมภาษณ์งานแล้ว
2. หนุ่มไอที
เขาคิดว่าการทำงานฟรีแลนซ์ มันทำให้ถึงเป้าหมายทางการเงิน ได้มากกว่าการนั่งในบริษัทเล็กๆ หนุ่มคนนี้มีความรู้ทางด้านการซ่อมคอม การเขียนโปรแกรม
การจัดการระบบต่างๆ ของคอมพิวเตอร์ จบใหม่ไฟแรง และคิดว่าการทำงานในบริษัท เพื่อเก็บทุนไว้ทำกิจการเล็กๆ เป็นของตัวเอง และหาประสบการณ์มันไม่สนุกเสียแล้ว
อีกอย่างงานไอทีในบริษัทที่ทำ มันก็ไม่ได้มีอะไรมากมาย แถมต้องทำงานหน้าที่อื่นๆ ด้วย เพราะเป็นบริษัทเล็กๆ งานสายไอทีโดยตรง ไม่ค่อยมีเท่าไหร่
ที่เปิดรับไอที เพราะแค่เอาไว้ช่วยแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น แต่มอบหมายงานอื่นๆ ให้ทำ ซึ่งเขารู้สึกว่าตอนแรกมันก็ดี คุ้มกับเงินเดือนที่ได้รับ
แต่อยู่ๆ ไป มันเหมือนความรู้จะหาย จึงเริ่มรับงานนอกทำวันหยุด ซึ่งทำแล้วมันเห็นเงิน และได้ท้าทายความรู้ที่เรียนมา ดังนั้น เขาจึงคิดว่าออกมาเป็นฟรีแลนซ์
หางานสายนี้โดยตรงน่าจะดีกับเขาที่สุด รายได้บางงานนั้น ได้มากกว่าเงินเดือนจากงานประจำเสียอีก มีให้ครบทั้งอิสรภาพทางเวลา และการเงิน
3. ลุงยามหน้าอพาร์ทเม้นท์
ลุงตั้งเป้าว่า สิ้นปีนี้จะกลับบ้านต่างจังหวัด หลังจากเข้ามาทำงานในเมืองหลวงนานหลายปี ทำตั้งแต่เป็นกรรมกรก่อสร้าง พนักงานโรงงาน สุดท้ายมาจบที่อาชีพยาม หรือ รปภ.
เหตุผลที่เปลี่ยนงานหลากหลาย เพราะพิษเศรษฐกิจ และรายได้ที่ไม่คุ้มเหนื่อย ทำงานหนัก แต่ได้ค่าแรงรายวัน ตั้งแต่งานกรรมกรแบกหาม โดนหักวันหยุด หักโน่นนี่นั่น
จึงต้องหางานใหม่ จนได้งานทำที่โรงงานแห่งหนึ่ง ซึ่งก็ทำมาหลายปี มีเงินเก็บส่งทางบ้านมากพอสมควร สร้างบ้านใหม่หลังเล็กๆ มีเงินให้พ่อแม่ไถ่ที่นาได้สำเร็จ
ส่งเสียทางบ้านจนพ่อแม่จากไป บ้านและที่นาก็ฝากญาติๆ ดูแล ให้ทำนาไม่เอาค่าเช่า เพราะเป็นพี่น้องกัน แค่ขอข้าวที่ทำได้มาไว้หุงกินก็พอ ตัวลุงเองมาได้แฟนที่โรงงาน
ก็อยู่กินกัน มีลูกคนเดียว ซึ่งดูเหมือนจะดี แต่พิษเศรษฐกิจทำให้โรงงานเจ๊ง ต้องปิดตัวเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ด้วยความที่ตอนนั้นยังมีแรง ยังไหวกับการสู้ชีวิตในเมืองกรุง
เลยมาสมัครเป็นยาม เพราะรายได้ดี ส่วนแฟนและลูก ลุงก็ให้กลับไปอยู่บ้านนอกแทน โดยส่งเงินให้ทุกเดือน ให้ไปทำนาปลูกผัก ดูแลบ้านและที่นา
ในตอนนี้ลุงแกบอกว่า ลุงอายุมากแล้ว กลับไปบ้านนอกดีกว่า อะไรๆ ก็เจริญ ที่นา 3 ไร่ ก็แบ่งให้เขาเช่าทำนา เก็บไว้ทำเองแค่ไร่เดียว ปลูกผักเลี้ยงปลา มันก็พอมีพอกิน
ลูกเมียก็อยากให้กลับไปอยู่บ้าน ลูกก็โตแล้ว เรียนใกล้จบแล้ว ก็คงหางานทำที่บ้าน แกบอก พอกันทีชีวิตเมืองหลวง ค่าใช้จ่ายแพง ได้เงินค่าจ้างมา ก็โดนค่าเช่าบ้าน
ขนาดอยู่ราคาถูกๆ ยังขึ้นได้ทุกปี ค่าอาหาร ค่าเดินทางมาทำงาน หักวันหยุดออกแล้ว รายได้วันละ 700 เดือนหนึ่งเหลือไม่เท่าไหร่ แกบอกที่ได้เยอะเพราะอยู่มานาน
ทำงานดี บริษัทก็ขึ้นเงินให้ เจ้าของสถานที่ที่แกมาเฝ้าให้เขา ก็ให้พิเศษเพิ่ม แกบอกว่า อยู่บ้านนอกไม่มีคำว่าอด หากขยัน มีของให้กินทุกวัน ไม่ต้องซื้อ หากรู้จักทำ
จากตัวอย่างที่ยกมาให้ดูนั้น มันก็เป็นเพียงเศษเสี้ยวของการออกจากงาน ซึ่งที่จริงมันมีเหตุผลมากกว่านี้ แต่เท่าที่ได้คุยและสอบถามมานั้น
ทุกคนคิดแล้วว่า การออกจากงาน ทำให้ได้สิ่งที่ดีกว่า แม้ว่าจะเป็นเรื่องของอนาคต แต่สิ่งที่เหมือนกันคือ หมดใจในการทำงาน หมดไฟในการต่อสู้กับงานแล้ว
หากคุณกำลังคิดจะออกจากงาน ลองคิดวิเคราะห์ดูว่า คุณออกเพราะอะไร ออกมาแล้วจะทำอะไร หาเหตุผลรองรับ หาทางออกให้ได้ แล้วค่อยออกจากงาน
ที่มา M o n e y H u b