เมื่อต้องตกงานหลังอายุ 35 จะวางแผนสำรองชีวิตอย่างไร

เมื่อต้องตกงานหลังอายุ 35 จะวางแผนสำรองชีวิตอย่างไร

ทุกที่เวลาติดป้ายรับสมัครงาน จะมีลิสต์คุณสมบัติของผู้สมัครที่ต้องการ รวมถึงคุณวุฒิ ประสบการณ์การทำงาน

และที่ขาดไม่ได้คือ อายุ ตามป้ายประกาศรับสมัครงาน จะระบุช่วงอายุที่ต้องการมาด้วย ซึ่งส่วนใหญ่มักจะรับไม่เกิน 40 ปี

และถ้ายิ่งอายุมากเกิน 40 ปีขึ้นไป จะยิ่งมีตัวเลือกน้อยลง แล้วแบบนี้ ถ้าเราอายุเกิน 40 ปี แถมยังมาตกงานตอนอายุเยอะๆ

คงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหางานใหม่ ถ้าไม่ใช่สายงานที่เฉพาะทาง และเรามีความสามารถจริงๆ

คนรุ่นใหม่ก็จบออกมาทุกปี นอกจากเราจะต้องไปแย่งงานจากคนรุ่นเดียวกันแล้ว ยังจะต้องไปแข่งขันกับหนุ่มสาว

ที่มีพลังกายเหลือล้นกว่าเราเป็นไหนๆ เรียนจบมาได้ทำงาน บางคนก็ยังไม่เคยคิดหรือวางแผนไว้เลย

ว่าถ้าต้องตกงานตอนอายุมากๆ จะทำอย่างไรดี รู้แค่ว่ามีความสุขกับการทำงานถึงสิ้นเดือน แล้วรอเงินเดือนออก

จากนั้นก็ไปสังสรรค์ ใช้ชีวิตตามกระแสเหมือนคนส่วนใหญ่ทั่วๆ ไป โบนัสออก ดื่มฉลองทุกสุดสัปดาห์ หาที่เที่ยววนไป

จะผ่านไป 10 ปี 20 ปี ก็ยังคงใช้ชีวิตแบบนี้ จนลืมไปว่าอายุเรามากขึ้นทุกวัน ลืมเตรียมใจไว้ว่า

ถ้าตกงานตอนอายุ 40-50 จะไปทำอะไร อย่าคิดว่ามีงานที่มั่นคงแล้ว ใช้ชีวิตสบายชิวๆ ไม่ต้องคิดวางแผนสำรอง

ตัวอย่างก็มีให้เห็นแล้ว โรคระบาดที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดก็เกิดขึ้นแล้ว อาชีพที่ดูมั่นคง เป็นที่ใฝ่ฝันของใครหลายๆ คน

ตอนนี้ก็ยังต้องตกงานกันระนาว การมีรายได้ทางเดียว เป็นการใช้ชีวิตที่ประมาท และจะทำให้ชีวิต

ต้องเจอกับความลำบากในอนาคตได้ง่าย หากต้องตกงานจริงๆ ไม่ว่าจะตอนอายุยังน้อยหรือจะแก่แล้ว

ถ้าเรามีรายได้ทางที่สองสำรองไว้ ก็จะเป็นเบาะรองให้เราได้ ในวันที่เราล้ม ถึงล้มก็ไม่เจ็บมาก

เพราะฉะนั้น เราจึงต้องพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา ศึกษาหาความรู้ใหม่ๆ ให้ทันโลก ทันกระแส

อย่าปล่อยเวลาทิ้งไปกับเรื่องไร้สาระ หันกลับมาสนใจชีวิตของเราเองจะดีที่สุด

ให้รู้ว่าแต่ละวันต้องทำอะไร อนาคตอยากจะเป็นแบบไหน แล้วเริ่มลงมือทำซะตั้งแต่วันนี้

ที่มา b i t c o r e t e c h