10 แนวคิด เมื่อเป็นหนี้แล้วเครียด คุณแค่เป็นหนี้..มันแก้ไขได้

10 แนวคิด เมื่อเป็นหนี้แล้วเครียด คุณแค่เป็นหนี้..มันแก้ไขได้

เรื่องหนี้สินเป็นเรื่องที่หลายคนต้องเผชิญ เพราะแต่ละคนมีภาระ และการใช้จ่ายในครอบครัวที่แตกต่างกัน

แต่เมื่อเป็นหนี้แล้ว เราก็ต้องยอมรับว่าเราต้องใช้หนี้ และ “เป็นหนี้ให้เป็น” ไม่อย่างนั้นนอกจากจะต้องหมดความสุขในแต่ละวัน

เพราะมัวแต่เครียดแล้ว ยังไม่มีทางออกที่จะแก้ไขปัญหาหนี้สินอย่างไรด้วย ดังนั้นเราต้องหาวิธีรับมือกับเรื่องต่างๆ

ที่ต้องเจอเมื่อเป็นหนี้ ไม่ใช่แค่เฉพาะเรื่องความเครียดที่ต้องจัดการ แต่ต้องจัดการกับวิธีคิดด้วย มาเริ่มกันเลย

1. อย่าหนีหนี้

การหนีปัญหาหนี้สิน ไม่ใช่ทางออกที่ดี เพราะสิ่งหนึ่งที่เราต้องยอมรับคือ เมื่อเป็นหนี้แล้วเราก็ต้อง

ผ่อนต้องชำระให้หมด ค่อยๆ คิด และหาทาง เพราะปัจจุบันนี้มีวิธีปรับโครงสร้างหนี้ หรือแม้แต่การขอผ่อนจ่าย

2. ปรึกษาผู้รู้และคนที่มีประสบการณ์

ประสบการณ์ร่วม จะทำให้เรารู้สึกว่าไม่ได้เจอปัญหาแบบนี้คนเดียว เพราะยังมีหลายคนที่เป็นหนี้

และไม่รู้จะหาทางออกอย่างไร ซึ่งความจริงแล้วแต่ละคนจะมีวิธีรับมือต่างกัน หากเราเลือกรับฟังประสบการณ์

จากคนที่เคยเป็นหนี้แต่ปลดหนี้แล้ว อย่างน้อยก็จะได้มีกำลังใจ สร้างแรงผลักดันให้ผ่านช่วงยากลำบากไปได้

3. คิดไว้เสมอว่า ความเครียดไม่ช่วยอะไร

หมุนเงินไม่ทันเป็นธรรมดา เพราะแต่ละคนจะมีปัญหาชีวิตที่แตกต่างกันไป แต่เมื่อเป็นหนี้แล้วเราต้องคิดไว้เสมอว่า

ความเครียดไม่ช่วยอะไร ไม่ได้ทำให้เรามองเห็นทางออกของปัญหา ดังนั้น ถึงจะเป็นหนี้เราก็ต้องมองไว้ว่า เครียดไปก็เท่านั้น

4. หาทางออกไว้ ไม่ต้องรอให้หนี้ล้นมือ

อย่ามัวแต่จะตั้งรับอย่างเดียว แต่ควรคิดหาทางออก ตั้งแต่เราเป็นหนี้ เพราะสถานการณ์ตอนนั้น บอกเราแล้วว่าการเงินจะไม่ปกติ

รายจ่ายจะมากกว่ารายรับ เพราะต้องชำระหนี้ทุกเดือน แน่นอนว่าเราต้องทำงานมากกว่าเดิม การหาทางออกที่ดีที่สุดก็คือ การหางานเสริม

5. ใช้เงินสดเท่านั้น

หากไม่อยากเครียดทีหลัง ให้ใช้แต่เงินสดในการใช้จ่ายเท่านั้น เพราะการใช้บัตรเครดิตจะสร้างหนี้ในอนาคต

ไม่จบไม่สิ้นเสียที เหมือนการเอาเงินอนาคตมาใช้ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ กิเลสมาอยากซื้อของ ให้หาอะไรอย่างอื่นทำไปเลย

6. หยุดจ่ายสิ่งที่ไม่จำเป็น

การรับมือที่ดีที่สุดอย่างหนึ่ง เมื่อมีหนี้สิน คือ ต้องทำใจว่าเราต้องจ่ายสิ่งที่ไม่จำเป็นให้น้อยลง ลดค่าใช้จ่าย ทำบัญชีรายรับรายจ่าย

เพื่อสร้างวินัยให้กับตนเองในการใช้เงิน นอกจากนั้น ส่วนที่เราประหยัด เมื่อมารวมกันแล้ว อาจช่วยปลดหนี้ได้บางส่วน

7. ศึกษาหาวิธีการผ่อนจ่าย

เมื่อถึงจุดที่เราไม่สามารถจ่ายหนี้ที่ล้นมือได้แล้ว ควรศึกษาและเตรียมตัวว่า จะขอปรับลดการผ่อนชำระอย่างไร

ส่วนใหญ่คนที่กู้เงินจากธนาคาร จะสามารถปรับโครงสร้างหนี้ได้ เพื่อลดการชำระเงินค่างวด อย่างน้อยช่วยทุ่นรายจ่ายในแต่ละเดือน

8. ให้กำลังใจตัวเองอยู่เสมอ

อย่าปล่อยให้ตัวเองอยู่คนเดียวนานๆ คิดคนเดียว แก้ปัญหาคนเดียว ไม่ใช่เรื่องที่ดี ควรเข้าใจถึงต้นเหตุที่เราต้องเป็นหนี้

อย่างมองข้ามเรื่องของกำลังใจ เพราะกำลังใจจะทำให้เราผ่านช่วงเวลายากลำบากไปได้ การพูดคุยกับเพื่อนสนิทหรือคนที่ไว้ใจได้

จะช่วยให้เราเบาใจขึ้น และคิดหาทางออกต่อไปว่าจะเดินไปทางไหน คิดไว้ว่า “มีลมหายใจไว้แก้ปัญหา” เป็นทางออกที่ดีที่สุดทางหนึ่ง

9. ปรึกษาคนในครอบครัว

ส่วนใหญ่คนที่เป็นหนี้สิน มักจะไม่กล้าปรึกษาคนในครอบครัว เพราะกลัวถูกต่อว่า หรือทำให้ครอบครัวรู้สึกไม่มั่นคง

มากไปกว่านั้นคือ กลัวทำให้ครอบครัวหมดความสุข แต่เมื่อรับมือคนเดียวไม่ไหว ก็ได้เวลาที่ต้องจับเข่าพูดคุยปรึกษา

แต่ความจริงแล้วการเป็นหนี้สินไม่ต้องรอให้ถึงจุดที่แย่ที่สุด ควรพูดคุยกันในครอบครัวก่อนดีกว่า อาจมองเห็นทางออกมากยิ่งขึ้น

10. ลงมือทำด้วย

อย่ามัวแต่นั่งคิดหาทางออกอย่างเดียว ลงมือทำได้เลย ถ้าหางานเสริมทำ อย่ามัวแต่คิดว่าได้เงินน้อย หรือทำไปไม่คุ้ม

ให้รีบทำและรีบเก็บเงิน “คิดฟุ้งซ่านไม่ช่วยอะไร” ท่องไว้เตือนใจตัวเอง เวลาที่นั่งคิดมากอยู่คนเดียว

ลุกขึ้นและหาอะไรที่ทำให้มีรายได้เสริม หรือแบ่งเบาภาระหนี้สินจากหนักให้เป็นเบาจะดีกว่า การเป็นหนี้สินไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัว

แต่ละคนอาจต้องเผชิญกับเรื่องนี้ในบางจังหวะของชีวิต แต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว การรู้วินัยการใช้จ่าย หาวิธีรับมือ

เตรียมตัวจัดสรรการเงินของตัวเราเองใหม่ หรือแม้แต่การเปลี่ยนตารางการใช้ชีวิตไปเลย อนาคตอยากจะใช้ชีวิตให้ปลอดหนี้

ก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินไป มากไปกว่านั้นการสร้างกำลังใจให้ตัวเอง เพื่อจะได้มีแรงผลักดันในการหางานทำ

หรืออาชีพเสริมเพื่อนำมาปลดหนี้ เป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะเมื่อเป็นหนี้แล้ว เราไม่มีทางหนีพ้น

การยอมรับและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่าย ยังคงเป็นทางออกที่ดี สำหรับคนที่กำลังมีหนี้สินพันตัวอยู่

ขอขอบคุณ m o n e y h u b