น้อยคนนักที่จะเกิดมาบนโลกนี้แล้ว ไม่ถูกใครอิจฉาเลย การถูกอิจฉาริษยาจากคนในที่ทำงาน โรงเรียน มหาวิทยาลัยมักเกิดขึ้นได้เสมอ
ซึ่งถ้าหากคุณโชคดีพอ คนที่อิจฉาคุณก็จะไม่สามารถทำอะไรคุณได้ ทำได้เพียงแค่แอบมองคุณจากมุมมืด พร้อมส่งสายตาอิจฉามายังคุณเท่านั้น
แต่ถ้าคุณโชคร้าย คุณก็อาจโดนคนประเภทนี้เล่นงานจนเจ็บหนัก เสื่อมเสียชื่อเสียงได้เช่นกัน
อย่างไรก็ดี ความร้ายกาจของคนที่อิจฉาคุณอยู่ อาจถูกสยบลงได้ หากคุณมีวิธีจัดการที่ดีกับปัญหาดังกล่าว
ซึ่งวิธีจัดการจะมีอะไรบ้างนั้น ไปอ่านกันเลย
1. หยิบยื่นความเป็นมิตร
แม้ว่าคุณอาจได้ยินหรือพอจะรู้สึกได้ ว่ามีคนบางคนแอบอิจฉาคุณอยู่ แต่การเดินหน้าเข้าไปจัดการกับคู่กรณี อาจไม่ใช่ทางออกที่ดีนัก
หากทำได้ ลองมีน้ำใจทำสิ่งดี ๆ กับเขาคนนั้นก่อนจะดีกว่า เช่น พูดกับเขาดี ๆ หรือมีขนมก็แบ่งกัน
การลองทำสิ่งดี ๆ แก่กัน อาจช่วยเปิดโอกาสให้คุณและเขาคนนั้น ได้รู้จักกันดียิ่งขึ้น และทำให้สถานการณ์ต่าง ๆ เปลี่ยนไปในทางที่ดีได้ค่ะ
แต่ถ้าหากลองทำแล้วยังไม่เป็นผล ก็อย่านำเรื่องนี้มาเก็บเป็นอารมณ์ให้กังวลใจไปเลย เพราะคนเราก็มีหลายมุมหลายความรู้สึก
เราไม่อาจทำให้ทุกคนรู้สึกดีกับเราได้ทั้งหมด หรือถ้าสบโอกาส ลองสังเกตดูก็ได้ว่าเขาคนนั้น
ทำนิสัยเดียวกัน กับเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ หรือไม่ ถ้าทำ ก็เป็นไปได้ว่า นั่นคือตัวตนของเขาและไม่ได้มีแต่คุณที่เจอเขาอิจฉาใส่
2. เข้มแข็งเข้าไว้
บางคน กว่าจะทราบว่ามีคนอิจฉาหรือลอบใส่ความ ก็มาสังเกตได้เมื่อสายไปเสียแล้ว เช่น เพื่อนร่วมงานทั้งออฟฟิศ
ต่างได้รับข้อมูลเท็จเกี่ยวกับตัวคุณจากคนคนนั้น และไม่มีใครอยากคบหาสมาคมกับคุณอีก ถ้าเป็นเช่นนี้ขอให้เข้มแข็งเข้าไว้
ยืดอกเชิดหน้าให้มั่น (จะแอบร้องไห้ก็ได้ ถ้าร้องเสร็จแล้วตาไม่แดง) เพราะถ้าคุณไปแอบร้องไห้ หรือทำตาแดง ๆ ก็เท่ากับเข้าล็อกตามที่เขาต้องการ
3. สร้างความน่าเชื่อถือในหมู่เพื่อนร่วมงาน
ไ่ม่มีอะไรสามารถสร้างแรงหนุนให้กับคุณ และผลักคำกล่าวหาร้าย ๆ ออกไปได้เร็วเท่ากับ การได้รับการยอมรับจากคนรอบข้าง
หากคุณได้รับการยอมรับจากทีม หรือคนอื่น ๆ มีความเชื่อมั่นในตัวของคุณ พวกเขาจะไม่สนใจคำว่าร้ายนินทา
จากคนที่อิจฉาคุณแต่ประการใด และจะทำให้คนที่อิจฉาคุณอยู่นั้น ต้องยอมจากไปแต่โดยดี
4. กันไว้ดีกว่าแก้
การป้องกันการเกิดความอิจฉาในหมู่เพื่อนร่วมงาน อาจทำได้หลายแบบ เช่น การกล่าวชื่นชมทุก ๆ คนที่มีส่วนต่อความสำเร็จในงาน
(เพื่อนร่วมงานบางคนอาจหาความมีส่วนร่วมไม่เจอ แต่ก็ขอให้พยายามนึกให้ออก) แม้จะเล็กน้อย แต่การกล่าวชม เผื่อแผ่ความดีความชอบออกไป
จะทำให้คุณไม่ตกเป็นเป้าจากคนขี้อิจฉาเหล่านั้น อีกทั้งยังทำให้คนที่ได้รับคำชม หรือการพูดถึงจากคุณไม่รู้สึกอิจฉาคุณด้วย
5. หากปัญหารุนแรง เข้าพบหัวหน้าย่อมดีที่สุด
ไม่ได้หมายความว่า คุณต้องเข้าไปร้องไห้ฟูมฟาย ขณะเล่าให้ผู้จัดการหรือหัวหน้าของคุณฟัง เพราะมันจะดูเหมือนเด็กถูกเพื่อนแกล้ง
แล้วเข้าไปฟ้องครู ถ้าจะเข้าพบหัวหน้า เพื่อแจ้งถึงปัญหาดังกล่าวให้รับรู้ การวางตัวให้เหมาะสมก็เป็นสิ่งจำเป็น เช่น เอ่ยถึงปัญหา
และความวิตกกังวลของคุณ ขอคำแนะนำในการปฏิบัติตัวกับปัญหาดังกล่าว เรียกว่าทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่ที่สุดเท่าที่จะทำได้ดีกว่า
6. ไม่ว่าอย่างไร เป็นคนน่ารักไว้ก่อน
แม้ว่าจะมีคนทำไม่ดีกับคุณอย่างมาก แต่ถ้าคุณอดทนกับมัน และใจดีพอที่จะไม่ถือสาหาความ กับเรื่องไร้สาระเช่นนี้
ก็เป็นไปได้ว่า เมื่อเวลาผ่านไป ความรู้สึกอิจฉานั้น ก็จะถูกแทนที่ด้วยความเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้นั่นเอง
แต่ถ้าวันใด ตัวคุณเองกลายเป็นฝ่ายอิจฉาคนอื่นบ้าง ก็จัดการกับความรู้สึกของตัวเอง ก่อนที่จะไปทำร้ายใครดีกว่านะคะ
ที่มา ASTV