เราไม่จำเป็นต้องไปหาหลักการ วิธีการ หรือทฤษฎีอะไรมากมาย ในการที่จะได้ใจคนอื่นในการทำงาน
เพียงแค่พฤติกรรมเล็ก ๆ แต่ถ้าเราปฏิบัตอย่างใส่ใจ และสม่ำเสมอ คนอื่นก็จะรับรู้ได้ถึงความจริงใจที่เรามีให้อย่างแน่นอน
ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงาน เจ้านาย หรือลูกค้า แค่เพียงพฤติกรรมเล็ก ๆ เหล่านี้ที่หลายคนมองข้าม ก็สามารถซื้อใจใครหลายคนได้
1. ตรงต่อเวลา
เหมือนพฤติกรรมเรื่องตรงต่อเวลาจะยากสำหรับพนักงานบางคน แต่ถ้าทำได้จะทำให้คนที่เราติดต่อด้วยเกิดความประทับใจได้ไม่ยาก
เวลาที่นัดลูกค้าหรือเจ้านาย สิ่งที่ควรทำก็คือ การไปถึงก่อนเวลาประมาณ 10 นาที เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกอุ่นใจ ไม่ต้องรอ
และสามารถที่จะทำงานต่อกันได้เลยเมื่อถึงเวลาที่กำหนด แต่เราก็มักจะเห็นพนักงานที่นัดลูกค้าแล้วก็ไปสาย หรือไปแบบเฉียดฉิวมาก ๆ
ซึ่งพนักงานอาจจะมองว่า ไม่เห็นเป็นอะไร แต่มุมมองของลูกค้าและคนอื่น เขาไม่ได้มองแบบนั้น มีแต่จะสร้างความไม่ประทับใจ
ความไม่เป็นมืออาชีพให้คนอื่นได้เห็น ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเป็นลูกค้าของเรา เขาอาจจะคิดว่า
เราควรจะไว้วางใจคนนี้หรือบริษัทนี้ ให้ทำงานให้เราหรือไม่ ผู้บริหารและลูกค้าหลายคน จริงจังกับเรื่องของการตรงต่อเวลามาก
ดังนั้น พฤติกรรมเล็ก ๆ แบบนี้ถ้าเราทำได้ เราจะได้ใจอีกฝ่ายไม่ยาก
2. รับโทรศัพท์
นี่ก็เป็นอีกพฤติกรรมหนึ่งที่เรามักจะเห็นพนักงานบางคน ไม่รับโทรศัพท์ของคนที่ติดต่อเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นเจ้านาย ลูกค้า หรือเพื่อนร่วมงาน
การที่มีคนโทรศัพท์เข้ามา แสดงว่าคนนั้นต้องการที่จะติดต่อ และอาจจะมีเรื่องเร่งด่วน ที่ต้องการความช่วยเหลือจากเราก็เป็นได้
ดังนั้น การรับโทรศัพท์ในทันที หรือทุกครั้งที่มีการติดต่อเข้ามา จึงเป็นการแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจ ความกระตือรือร้นที่จะให้บริการ
หรือบางครั้งถ้ารับสายไม่ได้จริง ๆ ก็ต้องรีบโทรกลับทันทีที่เสร็จธุระ ไม่ทิ้งให้อีกฝ่ายรอจนข้ามวัน บางคนที่เคยเจอ
จะสลับสายโทรศัพท์มารับสายเรา แล้วแจ้งเราว่าตอนนี้ติดธุระ ติดงานอยู่ อีก 10 นาทีโทรกลับ แล้วเขาก็ทำตามสัญญาจริง ๆ
ว่าอีก 10 นาทีโทรกลับ ด้วยพฤติกรรมเล็กน้อยแบบนี้ ก็สามารถที่จะทำให้คนอื่นรู้สึกประทับใจได้เช่นกัน
3. ตอบกลับ อีเมล์ ไลน์ ฯลฯ
อีกพฤติกรรมหนึ่งก็คือ การตอบกลับข้อความต่าง ๆ รวมทั้งอีเมล์ของลูกค้า และคนที่ติดต่อด้วย
หลายครั้งที่คนที่ส่งข้อความมา ต้องการที่จะได้รับการตอบรับบางอย่างจากผู้รับด้วยเช่นกัน เพื่อทำให้เขารู้สึกอุ่นใจว่า
ข้อความที่ส่งไปนั้นได้รับแล้ว และกำลังดำเนินการบางอย่างอยู่ แต่สิ่งที่เคยพบมาก็คือ หลายคนพอได้รับอีเมลแล้วก็นิ่งเฉย
ไม่มีการตอบรับใด ๆ ให้อีกฝ่ายได้รับทราบ เหมือนไม่ใส่ใจ จนกระทั่งอีกฝ่ายต้องโทรมาติดตาม พอโทรมาก็ไม่รับ ไม่ติดต่อกลับอีก
ด้วยพฤติกรรมแบบนี้ แม้ว่าจะยิ้มแย้มแจ่มใสสักแค่ไหน ก็ไม่สามารถที่จะสร้างความประทับใจให้กับคนอื่นได้เลย
ดังนั้น อย่างน้อยการตอบกลับสั้น ๆ ว่าได้รับข้อมูลแล้ว และขอเวลาในการดำเนินการ
แค่เพียงเท่านี้ก็สามารถสร้างความรู้สึกสบายใจให้กับคนที่ส่งข้อความมาได้แล้ว
4. สัญญาอะไรไว้ ก็ต้องทำตามด้วย
การให้คำสัญญาอะไรกับอีกฝ่ายไว้ ก็ต้องไม่ลืมที่จะทำตามที่เราพูดไว้ด้วย เช่น อีก 10 นาทีโทรกลับ
แล้วหายไปประมาณ 1 วันโดยไม่มีการบอกล่าวใด ๆ หรือสัญญาว่าจะดำเนินการให้เสร็จภายในวันที่กำหนด แต่กลับเงียบหายอีก
โดยไม่มีการแจ้งความคืบหน้าหรือปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ฯลฯ พฤติกรรมนี้เป็นการแสดงให้ลูกค้าและคนอื่นเห็นถึงความจริงใจ
และความใส่ใจในสัญญาที่ให้ไว้ แม้ว่าบางเรื่องเราอาจจมองว่าเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แค่นั้นเอง แต่ประเด็นไม่ได้อยู่ที่เรื่องนั้น ๆ
ประเด็นอยู่ที่การรักษาสัญญาที่ให้ไว้มากกว่า ที่จะสร้างความเชื่อใจ และความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นกับคนอื่นที่เราติดต่อด้วย
5. มองตาและรับฟังเวลาที่คุย
เคยเจอพนักงานที่เวลาเราไปคุยด้วย หรือไปใช้บริการ แล้วไม่มองหน้าเรา นั่งเขียน นั่งพิมพ์งานอย่างอื่นไปพร้อมกับปล่อยให้เราพูดไปเรื่อย
เหมือนจะฟัง แต่เชื่อได้เลยว่า ฟังได้ไม่หมด เพราะคนเราไม่สามารถทำหลายอย่างพร้อมกันในครั้งเดียวได้ แล้วเราก็มักจะได้ยินว่า
“เมื่อกี้พี่ว่าอะไรนะ” หรือ “รบกวนเล่าให้ฟังอีกทีได้มั้ย” คำถามก็คือ เรารู้สึกอย่างไรกับพฤติกรรมแบบนี้
ดังนั้น เวลาที่มีใครมาคุยด้วย จงวางกิจกรรมอย่างอื่นลงก่อน จากนั้นก็หันมารับฟัง มองตา สบตา แสดงพฤติกรรมว่าเรากำลังรับฟังอยู่
มีคำถามบ้างบางจังหวะ ด้วยพฤติกรรมที่ใส่ใจแบบนี้ จะมีใครบ้างที่ไม่ประทับใจ จริงมั้ยครับ
พฤติกรรมเล็ก ๆ ข้างต้น มักจะเป็นพฤติกรรมที่พนักงานหลายคนมองข้าม และมัวแต่ไปมุ่งเน้นผลลัพธ์ของงานเพียงอย่างเดียว
โดยคิดว่า ถ้าส่งมอบผลลัพธ์ให้ได้แล้ว ก็น่าจะโอเค แต่ในความจริงแล้ว พฤติกรรมเล็ก ๆ เหล่านี้ มันสะท้อนให้เห็นถึงความใส่ใจ
ความจริงใจ ความกระตือรือร้น ของคนที่ทำงานว่าจริงจังแค่ไหน และถ้าประกอบกับผลลัพธ์ที่ได้ออกมาดีด้วย
รับรองว่าทุกคนที่มาติดต่อด้วย เขาจะรู้สึกดี เชื่อมั่น และมั่นใจในตัวของเรามากขึ้นอีกหลายเท่าตัว
ที่มา prakal