เชื่อว่าหลาย ๆ คนต้องเคยผ่านเรื่องราวของความรักกันมาบ้าง แต่บทสรุปจุดจบอาจแตกต่างกันออกไป
บ้างก็สมหวัง บ้างก็ผิดหวัง สำหรับวันนี้ เรามีข้อคิดดี ๆ สำหรับการใช้ชีวิตคู่มาฝากทุกคน
1. คนเรามีการเปลี่ยนแปลงทุกวัน
ไม่เพียงแต่กายเท่านั้นที่คนเรายังเคลื่อนไหว ใจเราก็ต้องขยับบ้างตามอารมณ์ที่มีต่อสิ่งรอบตัว
ใน 1 วันเรายังรู้สึกได้เลยว่า ตัวเราเคลื่อนไหวไปหลายที่ มีหลายอารมณ์ความรู้สึก พบเจอกับหลายเหตุการณ์
นับประสาอะไรกับอีกคนหนึ่งที่เป็นอีกกายหนึ่ง อีกใจหนึ่ง นอกเหนือการควบคุมของเราที่ไม่ใช่เจ้าของทั้งหมด
ในวันนี้ที่เรางี่เง่ากับเขาได้ ไม่ได้แปลว่า สักวันหนึ่งเขาจะทนให้เรางี่เง่าได้อีก
ในวันนี้ที่เขายังรักเรา ก็ไม่มีอะไรการันตีได้ว่า อนาคตจะยังเป็นเหมือนวันวาน
ในวันนี้บางเรื่องที่ดูเล็กน้อย ในสักวันก็อาจเป็นเรื่องใหญ่โตได้
ในวันนี้ที่เรายังรักกันมาก ในสักวันอาจหมดรักกันแล้วก็ได้
2. บางครั้งการเข้าสู่โหมดความรัก ก็เป็นเพียงแค่การค้นหาตัวเอง
อย่าเพิ่งปักใจเชื่อว่า เขาคนนั้นที่ทำอะไรดี ๆ ให้ จะหมายความว่าเขารักเรา บางทีเขาก็แค่อยากค้นหาตัวเอง ในอีกด้านหนึ่งเท่านั้น
บางทีก็แค่อยากรู้ว่า การมีคนรักมันดีอย่างที่เขาว่ากันอย่างไร
บางทีก็แค่อยากรู้ว่า การคบกันจะไปได้นานแค่ไหน
บางทีก็แค่อยากรู้ว่า ความสัมพันธ์กับคนใหม่ จะดีกว่าคนเก่าแค่ไหน
มนุษย์เรายังมีความอยากรู้อยากเห็นเป็นสัญชาตญาณเดิม อย่าเพิ่งไว้ใจความรู้สึกดีให้มากนัก เผื่อใจไว้บ้าง จะช่วยเซฟความเจ็บปวดได้มาก
3. สิ่งแวดล้อมมีการเปลี่ยนแปลงทุกวัน
ต่อให้ยังอยู่ที่เดิม อิริยาบถเดิม สิ่งรอบข้างก็ต้องดำเนินต่อไป ดวงอาทิตย์ยังต้องขึ้นตามเวลา โลกยังต้องหมุนต่อไป
อากาศยังต้องเปลี่ยนไปตามแต่ละช่วงของวัน และมันก็อาจส่งผลกระทบถึงความรู้สึกคนเราได้
เพราะฉะนั้น ไม่ใช่เรื่องแปลก หากว่าสักวันหนึ่งเขาจะเบื่อเรา ทั้งที่เขาก็อยู่กับเราตลอด
และเราก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรตัวเองเลย ไม่ใช่เรื่องผิดเสียด้วย หากว่าคนเราอยากจะย้ายตัวเองไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมใหม่บ้าง
มันเป็นเรื่องของความสบายใจ ไม่มีใครถูกหรือผิด ที่จะเลือกสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมที่สุด
4. บางครั้งในอีกด้านของความรัก ก็เป็นเพียงแค่ผลประโยชน์
“ความรักทำให้คนเราดูดีขึ้น เปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้น” มันจะเป็นเรื่องดีมาก หากว่าการเปลี่ยนแปลงที่ดีนั้น
เกิดขึ้นจากความรู้สึกของตัวเราเองที่มีต่อคนอื่น ต้องการให้ตัวเองดูดี คู่ควรกับคนรัก และความรักอยู่เสมอ
แม้ว่าจะอยู่ห่างกัน ก็ยังไม่ละความสำคัญที่จะดูแลตัวเองให้ดีพร้อมตลอดเวลา แต่อีกด้านหนึ่ง
ก็เป็นไปได้ว่า การมีความรักเท่ากับโอกาสที่ดีกว่า ซึ่งเป็นไปในแง่ของผลประโยชน์ส่วนตัว เช่น คบกันโดยหวังให้คนสรรเสริญ
คบกันเพื่อหวังชุบตัวเองให้ดูดีเสียใหม่ พอได้ทุกอย่างที่ต้องการเมื่อไหร่ คนรักก็หมดผลประโยชน์ที่จะรักอีกต่อไป
5. รักที่ยาวนานที่สุดคือ รักอย่างสม่ำเสมอ เรื่อย ๆ ไปตลอดชีวิต
ไม่มีคำว่ารักตลอดไป ไม่มีคำว่ารักนิรันดร์ ถ้าแปลความหมาย “รักตลอดเวลา” อย่างตรงตัว
นั่นก็หมายถึง สมมติว่าอยู่ด้วยกัน 24 ชั่วโมง ก็จะรักกัน 24 ชั่วโมงแน่ ๆ ไม่ขาดตกบกพร่องแม้แต่นาทีเดียว
ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว มันเป็นไปไม่ได้เลย เพราะอย่างน้อยคนเราใน 24 ชั่วโมงนั้น ก็ต้องกันพื้นที่และเวลาไว้สำหรับส่วนอื่นบ้าง
มีเบื่อบ้าง พักสักไม่กี่นาที ก่อนที่จะเหม็นหน้าไปกว่านี้บ้าง คำว่า “รักอย่างสม่ำเสมอ” จึงมีอย่างแน่นอน
ซึ่งนั่นก็หมายความว่ารักอย่างรู้จักพื้นที่ และเวลาของกันและกัน ไม่มากเกินไปจนอีกฝ่ายต้องอึดอัด ไม่น้อยเกินไปจนต้องรู้สึกขาด
จนกระทั่งมันเกิดเป็นความพอดี และเมื่อความพอดีนี้เกิดขึ้นเป็นประจำ เป็นที่รู้กันดีของคนสองคน นี่แหละถึงเรียกว่า “รักอย่างสม่ำเสมอ”
และเมื่อความสม่ำเสมอนี้มีไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งคนหนึ่งได้จากอีกคนไป ก็จะเรียกว่า “รักจนลมหายใจสุดท้าย”
หรือ “รักตลอดชีวิต” แต่ไม่มีคำว่า “รักตลอดไป” เพราะคนที่ยังอยู่ ก็มีสิทธิเปลี่ยนเป้าหมาย
หรือไม่ก็เกิดการหลงลืมไปบ้าง ยิ่งสำหรับคำว่า “รักนิรันดร์” ยิ่งไม่มีจริง เพราะเมื่อเราไม่อยู่แล้ว
ก็ไม่รู้ว่าไปอยู่แห่งหนใดแล้ว และก็ไม่รู้ด้วยว่า ชาติหน้าจะเป็นอย่างไร