แม้ว่าเราจะรู้ว่า การออมเงินนั้นมีความสำคัญอย่างมาก เผื่อไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉินเจ็บป่วย
หรือมีเหตุให้ต้องใช้เงินด่วน แต่บางคนก็ยังเก็บเงินไม่ได้อยู่ดี ซึ่งมีหลายสาเหตุที่ทำให้การออมเงินไม่ประสบความสำเร็จ
บางทีเราก็มองข้ามไป ตัวอย่างสาเหตุที่ทำให้การออมเงินไม่ได้ผล
1. การอยู่ในสังคมที่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย
การมีเพื่อน หรืออยู่ในกลุ่มคนที่ใช้จ่ายเงินฟุ่มเฟือย ทำให้ยากในการออม
เพราะจะมีเหตุให้ใช้เงินตามความอยากหรือกิเลส หรือตามกลุ่มเพื่อนฝูงเพื่อการเข้าสังคม
2. ขาดระเบียบวินัยในชีวิต
ขาดระเบียบวินัยในการใช้เงิน หากก่อเกิดเป็นนิสัยที่ไม่ดีแล้ว
ก็ยากจะแก้ไขและส่งผลให้ออมเงินไม่ได้เลย มีเงินเมื่อไหร่ก็จะใช้จนหมด
3. กลัวเงินไม่พอใช้ จึงไม่คิดเรื่องออมเงิน
รายได้อาจจะน้อย กลัวจะไม่พอใช้ แต่ไม่เคยคิดวิเคราะห์ถึงรายจ่ายที่แท้จริง
ซึ่งบางทีก็ไม่ได้มากอย่างที่คิด เช่น คิดว่าต้องใช้เงินวันละ 200 บาท
แต่ในความเป็นจริง รายจ่ายไม่ได้มากขนาดนั้น หากรู้รายจ่ายที่แท้จริงก็จะเหลือเงินออม
4. การใช้เงินเก่งจนเกิดเป็นความเคยชิน
มีเงินเมื่อไหร่ ก็ต้องใช้จนหมดเกลี้ยง
5. ไม่รู้จักแบ่งเงินไว้ใช้จ่ายให้เป็นสัดส่วน
เช่น รายจ่ายส่วนตัว เงินเก็บ เงินลงทุน เงินไว้ใช้ยามฉุกเฉิน ต้องฝึกจัดแบ่งเงินและมีวินัยการเงิน
6. ขาดการวางแผน
การเงินเงินเป็นสิ่งสำคัญต่อการดำรงชีพของคนเรา การวางแผนเพื่อให้มีเงินไว้ใช้จ่าย
ทั้งในขณะที่ยังทำงานอยู่หรือแก่ชรา เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องวางแผน เพราะไม่มีใครช่วยเหลือใครได้
แต่ละคนต้องวางแผน และทำตามแผนที่ตัวเองวางไว้ให้ได้ เพื่อไม่ให้ชีวิตมีปัญหาการเงินในบั้นปลาย
7. ทนสิ่งยั่วยุไม่ไหว
ในโลกทุกวันนี้ มีสิ่งยั่วยุให้ใช้เงินมากมาย หากทนไม่ไหวก็จะต้องเสียเงินกับสิ่งเหล่านั้น
เช่น เสื้อผ้าใหม่ ๆ โทรศัพท์รุ่นใหม่ รถรุ่นใหม่ หรือแม้แต่ของใช้เล็ก ๆ น้อย ๆ
เสื้อผ้า เครื่องดื่ม อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ มีอยู่มากมาย หากทนไม่ไหวก็จะมีรายจ่ายตามมาไม่น้อย
8. ไม่รู้รายจ่ายที่แท้จริงในแต่ละเดือนแต่ละวัน
จึงประมาณเอาเอง ว่าเท่านั้นเท่านี้ก็คงจะพอ คนส่วนใหญ่มักจะประมาณรายจ่ายไว้มากกว่าปกติ
เพราะกลัวเงินจะไม่พอใช้ แต่หากรู้รายจ่ายที่แท้จริง ก็จะมีโอกาสเหลือเงินเก็บเป็นเงินออมได้
9. ไม่มีการจดบันทึกการใช้จ่ายประจำวัน ประจำเดือน
จึงไม่รู้ว่า มีรายจ่ายอะไรบ้าง ได้จ่ายอะไรไปบ้าง มากน้อยเพียงใด
จ่ายในเรื่องที่จำเป็น หรือไม่จำเป็น ก็ยากในการตรวจสอบ
10. ความประมาทคิดว่ายังหาเงินได้อยู่เรื่อย ๆ
มั่นใจในความเก่งของตัวเอง แต่งานหรืออาชีพใด ๆ ก็ตาม ก็มีวันขึ้นหรือได้รับความนิยมและเสื่อมความนิยม
วิธีหาเงินในปัจจุบันจึงอาจใช้ไม่ได้ในอนาคต ทำให้ในอนาคต ไม่สามารถหาเงินได้เหมือนในปัจจุบันอีกแล้ว เช่น สำนักพิมพ์
11. ใช้เงินไม่เป็น
การใช้เงิน การบริหารเงิน เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องศึกษา ไม่น้อยไปกว่าการหาเงิน ไม่เช่นนั้นเงินที่หามาได้ก็จะไม่มีเหลือเลย
12. ควบคุมตัวเองไม่ได้ในเรื่องการเงิน
บางคนนั้นเมื่อมีเงิน ก็จะขาดสติในการควบคุมตัวเอง และใช้เงินหมดในเวลาไม่นาน เงินเดือนออกได้ไม่กี่วันก็ใช้เงินเกือบหมดแล้ว
โดยเฉพาะคนที่ชอบเที่ยวสังสรรค์ เมื่อเจอเครื่องมึนเมาเข้าไป ก็จะยิ่งขาดสติ ใช้เงินไม่คิด กว่าจะรู้ตัวเงินก็หมดไปแล้ว เป็นอยู่อย่างนี้ทุกเดือน
13. มีหนี้สิน มีภาระต้องดูแลค่อนข้างมาก
บางคนต้องรับผิดชอบทั้งครอบครัว ต้องเลี้ยงดูหลายคน การออมเงินจึงเป็นเรื่องยาก การแก้ไขปัญหานี้
ต้องพยายามสอนให้แต่ละคนในครอบครัวหรือคนใกล้ตัว ได้เรียนรู้วิธีหาเงินบริหารเงิน
อย่าทำหน้าที่ให้เงินใช้เพียงอย่างเดียว เพราะคนเหล่านั้น ก็จะไม่รู้วิธีการหาเงิน
ซึ่งก็จะกลายเป็นภาระไปตราบอีกนานเท่านาน จนไม่มีเงินเก็บตั้งตัวไม่ได้เลย เพราะต้องเลี้ยงดูคนรอบตัวไปทั้งชีวิต
14. เริ่มออมเงินช้าเกินไป
ไม่พอใช้ในยามเกษียณ บางคนใช้เงินเก่ง กว่าจะเริ่มคิดได้ก็อายุมากแล้ว
ซึ่งอาจมีเหตุผลบางอย่าง ที่ทำให้เริ่มเห็นความสำคัญของการออมเงิน
เช่น การเจ็บป่วย อุบัติเหตุ จึงเริ่มคิดเรื่องการออมเงินอย่างจริงจัง แต่ก็เมื่ออายุมากแล้ว ออมได้ไม่มาก
15. การใช้จ่ายเงินกับสิ่งที่ทำให้ขาดสติในการควบคุมตัวเอง
อย่างสิ่งของมึนเมา หรืออาจจะเป็นคู่ครอง กิ๊ก นำเงินไปบำเรอคนรักอย่างขาดสติ บางคนให้จนหมดตัวแล้วก็โดนทิ้ง
16. สร้างหนี้ตลอดเวลา
บางคนเปลี่ยนของใช้บ่อยมาก ตามเพื่อน ตามสังคม เน้นการผ่อน จึงทำให้ไม่มีเงินเหลือเก็บ
ดังนั้น ต้องวางแผนในเรื่องการซื้อทรัพย์สิน หรือสิ่งของที่มีมูลค่าสูง ซื้อแล้วต้องใช้ให้คุ้ม
อย่าซื้อบ่อย เพราะจะทำให้เงินหมดไปเรื่อย ๆ ไม่มีเก็บ ไม่มีเงินออม
17. ขาดการวางแผนเรื่องการซื้อข้าวของเครื่องใช้
สินค้าเหล่านี้ บางอย่างมีราคาสูง แต่มีความทนทานใช้งานได้นาน แต่บางอย่าง แม้จะมีราคาสูง
แต่ไม่มีความทนทาน อย่างรถยนต์ ยางรุ่นใหม่ หรือเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยทำให้เสียเงินอยู่บ่อย ๆ
หรือการซื้อสินค้าจำนวนมาก จะมีราคาที่ถูกกว่า ช่วยประหยัดเงิน เรื่องการซื้อสินค้า
หากรู้จักวางแผน ก็จะมีเงินเพิ่มมากขึ้น และสามารถนำไปเก็บเป็นเงินออมได้
18. ขาดความรู้เรื่องการออมเงิน
และไม่เคยคิดที่จะศึกษา เพราะคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว แต่จริง ๆ แล้ว เรื่องการออมเงินเป็นสิ่งสำคัญ
ที่ต้องศึกษาในทันทีที่มีรายได้เข้ามา การออมเงินอย่างถูกวิธี เป็นวิธีที่ช่วยให้มีเงินเพิ่มมากขึ้น
มีรายได้เพิ่มขึ้น อย่างการซื้อสลากออมสิน อาจถูกรางวัล หรือได้ดอกเบี้ยเป็นเงินที่เพิ่มเข้ามาจากการออม เป็นรายได้อีกทางหนึ่งทุกปี
19. หวังพึ่งพาคนอื่นจนไม่ยอมคิดถึงเรื่องการออม
เพราะคิดว่า คนรอบข้างจะต้องให้ความช่วยเหลือตัวเอง แต่ในบางครั้ง ก็อาจเป็นเรื่องที่เลวร้าย
โดยเฉพาะสำหรับคนมีครอบครัว การเจ็บป่วยเพียงครั้งเดียว อาจมีค่ารักษาหลักล้านบาทตามมา
ไม่เพียงไม่มีเงินออมสำหรับตัวเอง แต่ยังทำให้คนรอบข้างเดือดร้อนตามไปด้วย
20. ขาดแรงจูงใจในการออม
สำหรับคนโสด ไม่มีภาระต้องรับผิดชอบ การออมเงินดูจะเป็นเรื่องยากมากจริง ๆ ต่างจากคนมีครอบครัว หรือมีภาระที่ต้องรับผิดชอบ
ดังนั้น อาจจะต้องสร้างหนี้เพื่อให้มีภาระ แต่ก็ควรเป็นหนี้ที่มีมูลค่าเพิ่มในอนาคต อย่างการซื้อบ้าน ซื้อที่ดิน ซึ่งราคาปรับตัวสูงขึ้นในอนาคต
การออมเงินไม่ได้ผล ไม่ประสบความสำเร็จ หากมองที่สาเหตุหลักหลักแล้ว ก็จะมาจากการไม่มีวินัยในชีวิต
ไม่มีวินัยการเงิน การเอาแต่ใจตัวเองตามความอยากได้อยากซื้อ และไม่ยอมศึกษาในเรื่องการบริหารเงิน
ผู้เขียนเคยมีรายรับค่อนข้างมาก แต่ก็ไม่เคยศึกษาเรื่องการบริหารเงินเลย ศึกษาแต่เรื่องการใช้เงิน การผลาญเงินอย่างเดียว
สุดท้ายไม่มีเงินออม ไม่มีเงินเก็บในบั้นปลาย จึงเริ่มลำบาก แม้จะรู้ตัว แต่ก็ยังแก้ไขตัวเองค่อนข้างยาก
เพราะตามใจตัวเองในเรื่องการใช้จ่ายมาเป็นสิบปี จนเสียผู้เสียคน
สำหรับใครที่มีรายได้ มีเงินเดือน เมื่อมีเงินเข้ามา จงคิดหรือศึกษาในเรื่องการบริหารเงิน เพราะการบริหารเงินอย่างถูกวิธีนั้น
เป็นการทำให้เกิดรายได้อีกทางหนึ่ง นอกเหนือจากรายได้หลักจากการทำงาน
และมีแนวโน้มที่จะเป็นรายได้ ที่มีความมั่นคงแทนเงินเดือน บางคนเน้นซื้อสลากหรือเล่นหุ้น
ซื้อออมไว้ทุกเดือน ผ่านไปเป็น 10 ปี จนมีผลตอบแทน เป็นดอกเบี้ยหรือเงินปันผล มากพอเป็นค่าใช้จ่าย ในชีวิตประจำวันได้
มีรายรับหลายทาง ทั้งจากงานประจำ และจากดอกเบี้ยของเงินฝาก ชีวิตมีความมั่นคงทางการเงินมากขึ้น มากกว่าคนที่ไม่คิดเรื่องการออมเลย
ที่มา s i a m e b o o k