ชายหนุ่มคนหนึ่ง ต้องเดินทางไปเป็นทหารเพื่อรับใช้ชาติ ขณะที่ภรรยาของตนตั้งครรภ์ได้ 7 เดือนแล้ว
เมื่อเขาเสร็จภารกิจรับใช้ชาติ ก็รีบกลับมาบ้านด้วยความดีใจ เพราะเขาจะได้พบกับภรรยาอันเป็นที่รัก
พร้อมกับลูกสาวตัวน้อย ที่เขายังไม่เคยได้พบหน้าเลยสักครั้ง เป็นเวลา 2 ปีเต็มๆ ที่เขาได้จากบ้านไป
เมื่อครอบครัวได้กลับมาพบหน้ากันอีก ก็ได้โอบกอดกันและกันด้วยความคิดถึงอยู่นานสองนาน จากนั้นทั้งสองก็จูงมือหนูน้อย
เดินกลับบ้านด้วยกัน ระหว่างทางนั้นภรรยาสาวเห็นว่า วันนี้ต้องฉลองการกลับมาของสามีสักหน่อย จึงได้พูดกับสามีว่า
“พี่คะ เดี๋ยวหนูไปหาซื้อของมาทำกับข้าวให้พี่ทานนะ ฝากดูลูกหน่อย เดี๋ยวหนูมา” สามีกับลูกก็ยืนรออยู่ตรงนั้น
เมื่อภรรยาออกไปซื้ออาหารแล้ว เขาจึงมีเวลาหยอกล้อกับลูกของตน และถามหนูน้อยว่า “คิดถึงพ่อไหมลูก”
แต่ลูกกลับตอบว่า “น้าไม่ใช่พ่อหนู พ่อหนูมาหาหนูทุกคืนเลย เวลาหนูนั่งพ่อก็นั่ง เวลาหนูยืนพ่อก็ยืนขึ้นตาม”
ระหว่างที่ยืนงงอยู่นั้น ภรรยาของเขาก็เดินกลับมา และพูดกับสามีว่า “กลับบ้านกันเถอะพี่ หนูซื้อของเสร็จแล้ว”
แต่สามีกลับไม่เอ่ยคำใดๆ ออกมาอีกเลย ฝ่ายภรรยารู้สึกแปลกใจ แต่เธอก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
เธอครุ่นคิดหาเหตุผลมาตลอดทาง แต่ก็นึกไม่ออกเลย จึงคิดว่าระหว่างกินข้าว บรรยากาศน่าจะกลับมาดีเหมือนเดิม
พอตกเย็น ภรรยาก็เรียกสามีมากินข้าวด้วยกัน ทั้ง 3 คน นั่งกินข้าวท่ามกลางบรรยากาศที่อึมครึม
ไม่มีการไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบ ไม่มีคำพูดจาอะไรทั้งนั้น ทำให้อาหารมื้อนี้ เป็นมื้อแห่งความเจ็บปวดของทั้งสองคน
และในคืนนั้นเอง ภรรยาก็ได้ตัดสินใจเดินออกจากบ้านไป แล้วเธอก็ไม่กลับมาอีกเลย
ผ่านไปได้ค่อนคืน ฝ่ายสามีตื่นขึ้นมาไม่เห็นภรรยา เขาจึงเดินออกมานอกห้อง เห็นลูกยังไม่นอน และได้เห็นพฤติกรรมบางอย่าง
ลูกได้ชี้ไปที่เงาของตัวเอง แล้วพูดว่า “พ่อของหนูมาแล้ว นั่นไง นั่นไง เวลาหนูนั่งพ่อก็นั่ง เวลาหนูยืนพ่อก็ยืน”
ชายหนุ่มจึงคิดได้ว่า เรื่องที่เขาเข้าใจผิดเมื่อตอนกลางวันนั้น แท้ที่จริงแล้ว ลูกหมายถึงเงาของตัวเองต่างหาก
มันทำให้เขารู้ว่า ภรรยารักเขามากแค่ไหน เขาจึงออกตามหาภรรยาตลอดทั้งคืน
จนรุ่งสาง เขาได้พบศพภรรยาอยู่ในทะเล เขารู้สึกเสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ภรรยาของตนต้องจบชีวิตลง
เพราะความเข้าใจผิดของเขา ด้วยอารมณ์ชั่ววูบ เขาจึง ป ลิ ด ชี พ ตั ว เ อ ง ตามภรรยาไปในทันที
สุดท้ายทั้งสองคน ต้องจบชีวิตของตัวเองลง เพียงเพราะทิฐิที่มีต่อกัน ไม่ยอมพูดคุยกัน
จนเหตุการณ์บานปลายใหญ่โต เกินกว่าจะแก้ไขได้ ทิ้งหนูน้อยที่ไร้เดียงสา ให้เป็นเด็กกำพร้าพ่อแม่
ช่างน่าสงสารยิ่งนัก อย่าให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นเลย หากความจริงยังไม่ชัดเจน อย่าเพิ่งรีบด่วนตัดสินใจ