การมีช่องทางสำรอง ย่อมดีกว่ามีทางออกเพียงทางเดียว
ยุคสมัยนี้ไม่ว่าจะเก่งกาจสักแค่ไหน ก็ไม่ควรหวังพึ่งรายได้เพียงทางเดียว
เห็นได้ชัดเลยว่า ความมั่นคงไม่มีอยู่จริง วันดีคืนดีบริษัทเจ๊ง ตกงาน
ถูกปลด ถูกลดพนักงาน จะทำอย่างไร ถ้าเราไม่มีแผนสำรองเลยก็ลำบากแน่
ดังนั้น เรามาเตรียมตัวตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อรับมือกับความเสี่ยงเหล่านี้กันเถอะ
1. ปรับทัศนคติ กับงานไม่ประจำใหม่ ซะตอนนี้
บางคนมีทัศนคติที่ไม่ดีกับงานอิสระโดยไม่รู้ตัว ความคิดนี้คือตัวฉุดไม่ให้เรา
ก้าวไปไหนไกลได้ เพราะบางทีเราเองนี่แหละที่จำกัดขอบเขตให้กับชีวิต
จึงไม่รู้ว่าที่จริงแล้ว เราสามารถทำอะไรได้มากกว่าที่คิด
จงก้าวออกมา สัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ๆ บ้าง
งานประจำนั้นมักจะจำเจ แต่งานไม่ประจำ จะทำให้เรารู้สึกถึงโลกใบใหม่
ได้ทำในสิ่งที่แตกต่างจากเดิม ถ้ามันทำเงินให้เราได้ ก็เป็นเรื่องดี จริงมั้ย?
2. มองหารายได้เสริม จากสิ่งที่ตนเองชอบ
ไม่ว่าใครต่างก็มีสิ่งที่ตัวเองหลงใหลกันทั้งนั้น และทุกสิ่งสามารถทำเงินได้
หากเราใส่ไอเดียลงไปด้วย ขอแค่เริ่มต้นจากสิ่งที่เราชอบ เพราะมันจะช่วยให้เรา
ทำได้ดีและทำได้นาน โดยที่เราไม่รู้สึกเบื่อเลย ขอเพียงแค่เราเปิดใจ
มองให้เห็นถึงโอกาสใหม่ๆ ที่สำคัญคือ หาตัวเองให้เจอ แล้วลงมือทำให้ถึงที่สุดครับ
3. อย่าพึ่งรายได้จากงานประจำ เพียงทางเดียว
การพึ่งรายได้ทางเดียวจากงานประจำ นับว่าเป็นความเสี่ยงอย่างยิ่ง
เพราะเราไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต แต่ดูจากทุกวันนี้ก็คงพอจะคาดเดาได้
มีคนตกงานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มีเด็กจบใหม่ทุกปี ทั้งฉลาดกว่า ไฟแรงกว่า
พร้อมจะมาแทนที่เราเสมอ การมีช่องทางสำรองจึงไม่ใช่แค่สิ่งที่ควรมี แต่ต้องมี
อย่างน้อยถ้าเรามีรายได้สองทาง ก็จะช่วยลดความเครียดได้มากเลยล่ะ
4. ต้องรู้จักพัฒนาต่อยอด
ไม่มีอะไรที่ทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำ ตั้งแต่เริ่มต้นใหม่ๆ เราต้องรู้จักพัฒนาต่อยอดไปเรื่อยๆ
ตอนแรกเราอาจจะทำเป็นรายได้เสริมเล็กๆ น้อยๆ แต่เราต้องคิดเผื่ออนาคต
เพิ่มคุณค่าให้กับงานของเรา เป็นธรรมดาที่ช่วงแรกจะติดขัดบ้าง
มีอุปสรรคที่ทำให้เราท้อบ้าง แต่ถ้าเราทำดี ปรับตัวเก่ง ใช้ความสามารถอย่างเต็มที่
ในที่สุดงานไม่ประจำ ย่อมไปได้ไกลกว่างานประจำอย่างแน่นอน