1. ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ จะเชื่อฟังพ่อแม่มากกว่านี้
เพราะพ่อแม่รู้จักเราดี และหวังดีต่อเราที่สุด แม้เราจะโตแล้ว แต่สิ่งที่พ่อแม่พูดก็มีคุณค่า ควรรับฟังท่านให้มาก
2. จะทำทุกสิ่งที่อยากทำ
เสียดายเวลาและโอกาสมาก ตอนมีกำลังวังชากลับไม่กล้าทำ เพราะกลัวล้มเหลว พออายุ 60 แล้วถึงตระหนักว่า
ความผิดพลาดที่สุดของมนุษย์ ไม่ใช่ความล้มเหลวที่เกิดขึ้นขณะที่ทำ หากแต่คือการไม่กล้าที่จะลงมือทำต่างหาก
3. จะไปเที่ยวทุกที่ ที่อยากไป
คนอายุเกิน 60 ทั้งหมดพูดเหมือนกันว่า ตอนที่ไปไหนได้คล่อง ดันไม่ไป ไม่มีเวลาบ้าง ไม่มีเงินบ้าง แล้วแต่จะอ้างกัน
มาวันนี้มีเงิน มีเวลา แต่จะเดินทางไปไหน ก็ไม่สะดวกเหมือนก่อนแล้ว ยิ่งอายุมากขึ้น ยิ่งไปยาก
ใครที่ยังไหวจึงควรไปเที่ยว คนที่ยังหนุ่มสาวก็ควรไป เพราะจะคล่องตัวและทำกิจกรรมต่างๆ ได้ดีกว่าตอนที่อายุเยอะแล้ว
4. จะพูดคำว่ารักให้มากขึ้น
ไม่ว่าจะบอกรักพ่อแม่ พี่น้อง ญาติสนิท มิตรสหาย โดยเฉพาะลูก และสามีภรรยา บางทีเราก็นึกเองว่า
เราทำอะไรให้ตั้งเยอะ น่าจะรู้แล้วว่ารัก แต่ที่จริงถ้าเราไม่เอ่ยคำว่ารักเลย คนรอบข้างเขาก็ไม่รู้หรอก ว่ารักมากแค่ไหน
นานวันยิ่งเพิ่มระยะห่าง และความชินชา สุดท้ายก็ไม่มั่นใจว่า ที่เราทำให้นั้น เราทำเพราะหน้าที่ หรือทำเพราะความรัก
5. จะเป็นตัวของตัวเองให้มากกว่าที่เคย
ตอนหนุ่มสาว และตอนทำงาน บางทีต้องทำเป็นชอบอะไรตามสมัย ให้เหมือนคนอื่น ไม่กล้าแปลกแยก
พออายุมากขึ้นจึงเริ่มเข้าใจได้ว่า คนเราไม่สามารถเหมือนคนอื่น และเหมือนตัวเองได้พร้อมกัน
เมื่อมองย้อนไปในอดีต จะเห็นชัดเจนว่า คนที่ประสบความสำเร็จนั้น มักจะมีความเป็นตัวของตัวเองสูงมาก
6. จะเปลี่ยนงาน ถ้างานที่ทำมันบั่นทอนจิตใจ
ถ้างานมันหนักไป ถูกเอาเปรียบมากไป หรือมีปัญหาอื่น คนวัยเกิน 60 บอกว่า
นึกไม่ออกว่าทำไมไม่หางานใหม่ ไปทนอยู่ทำไมกับสังคมแย่ๆ แบบนั้น
ยิ่งอายุยังน้อย ยิ่งมีโอกาสเปิดกว้างอีกเยอะ อย่าไปยึดติดว่าต้องเป็นงานประจำ ตำแหน่งสูงๆ
บริษัทใหญ่ๆ หรือรับราชการ เพราะคุณค่าและความสุขของเรา ไม่ควรถูกจำกัดไว้แค่นี้
7. จะกังวลกับเรื่องต่างๆ ให้น้อยลง
ที่ผ่านมาเรามัวแต่ไปกังวลกับเรื่องต่างๆ มากมาย โดยไม่เกิดผลอะไรเลย จะกังวลหรือไม่กังวล
ทุกเรื่องย่อมต้องจบลงเช่นกัน แต่จะจบลงด้วยดีหรือไม่ดี อยู่ที่การลงมือทำของเราต่างหาก