9 คุณสมบัติทำให้เก่ง สมัยนี้ดูดีอย่างเดียวคงไม่พอ

9 คุณสมบัติทำให้เก่ง สมัยนี้ดูดีอย่างเดียวคงไม่พอ

1. เป็นคนใฝ่รู้ ทำตัวเป็นหนอนหนังสือ

คนเราเกิดมามีต้นทุนความรู้ที่ไม่เท่ากัน แต่เราทุกคนสามารถเพิ่มเติมความรู้ให้ตัวเองได้ และวิธีที่ง่ายที่สุดก็คือการอ่านหนังสือ

เพราะการอ่านหนังสือ ทำให้เราเก่งขึ้นได้จริง อย่างในชีวิตการทำงาน บริษัทคาดหวังให้คุณมีความรอบรู้ เชี่ยวชาญในหน้าที่ที่รับผิดชอบ

ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อคุณเรียนรู้ ใฝ่รู้ ศึกษาค้นคว้าอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ลองถามตัวคุณเองดูว่า วันนี้คุณได้ใช้เวลาอ่านหนังสือ

วันละกี่ชั่วโมง แต่ละเดือนอ่านหนังสือไปกี่เล่ม ถ้ามีคนถามคุณว่า หนังสือที่คุณรักที่เป็นแรงบันดาลใจคือเล่มไหน คุณสามารถตอบคำถามนี้ได้หรือไม่

2. อยู่ใกล้คนเก่ง

เคยมีคนกล่าวว่า “ชีวิตคุณจะเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับหนังสือที่คุณอ่าน บ้ านที่คุณอยู่ ผู้คนที่คุณพบ” ดังนั้น หากคุณอยากเป็นคนเก่ง

คุณควรจะหาใครสักคนที่เป็น Role Model ไม่จำเป็นว่าคนนั้นต้องอายุมากกว่า ประสบการณ์มากกว่า หรือตำแหน่งสูงกว่า

(บางครั้งผู้ใหญ่อาจให้เด็กมาสอนเล่น F a c e b o o k หรือ เกมโปเกม่อนก็ได้) สิ่งสำคัญคือคุณจะต้องเปิดใจเรียนรู้จากคนอื่น พยายามอยู่ใกล้คนเก่ง

ศึกษาเรียนรู้จากเขา หากเป็นคนที่บริษัท คุณอาจเรียนรู้งานจากเขาแบบ Work Shadow ก็ได้ เพราะจะยิ่งทำให้เราเก่งขึ้นในระยะเวลาอันสั้น

3. ตั้งเป้าหมาย

คนเก่ง หรือคนที่ประสบความสำเร็จทุกคน จะมีจุดเด่นของตัวเองที่คนจะพูดถึง เช่น เมื่อพูดถึง Steve Jobs จะนึกถึงนวัตกรรมการเปลี่ยนโลก

พูดถึงคุณธันยวัชน์ ไชยตระกูล นึกถึง SME พูดถึงคุณตัน ภาสกรนที นึกถึงชาเขียว นึกถึงคุณปัญญา นิรันดร์กุล นึกถึงเกมส์โชว์

มนุษย์เราไม่ได้สมบูรณ์แบบ มีจุดอ่อน-จุดแข็งเสมอ พยายามค้นหาตัวเองให้เจอ ว่าอะไรคือสิ่งที่ต้องการ (You Want)

อะไรคือสิ่งที่ทำได้ (You Can) เพราะถ้าคุณหาเจอแล้ว ตั้งเป้าหมายไปเลยว่าเราจะต้องเก่งในเรื่องนี้

จะเป็นสุดยอดในเรื่องนี้ จากนั้นก็เดินตามเป้าหมายไปอย่างเคร่งครัด รับรองว่าความสำเร็จอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอน

4. มุ่งมั่น อดทน ไม่ยอมแพ้

ความเก่งไม่ใช่พรสวรรค์ แต่คือพรแสวง อย่างในหนังสือ Talent Code ของ Daniel Coyle ก็พูดว่าคนที่เก่งระดับโลก

ล้วนมาจากการฝึกฝนครั้งแล้วครั้งเล่า ซึ่งระหว่างทางอาจมีอุปสรรคเข้ามาทดสอบ ทำให้เราอยากล้มเลิก

แต่หากเราอยากสำเร็จ เราต้องมุ่งมั่น ทุ่มเท เพราะโลกนี้ไม่มีอะไรที่ได้มาฟรี อยากสำเร็จ อยากเก่งต้องแลก

5. มีทัศนคติที่ดี

ฐานความคิดที่จะทำให้คุณเก่งขึ้น คือ “แพ้ได้ แต่แพ้แล้วต้องลุก” คนเราไม่จำเป็นต้องชนะทุกเรื่อง อย่างแชมป์มวยโลกของไทย

เขาทราย กาแลกซี่ ที่สามารถป้องกันแชมป์ได้ถึง 19 ครั้ง แต่ก่อนจะเป็นแชมป์โลก เขาก็เคยแพ้มาก่อน แต่เขาไม่ยอมแพ้ ล้มแล้วลุก

ดังนั้น การเป็นคนเก่ง ไม่ต้องสมบูรณ์แบบ ผิดพลาดได้ แต่ต้องเรียนรู้และพยายามฟื้นตัวให้เร็ว กลับมาเดินต่อในสิ่งที่เราตั้งเป้าเอาไว้

6. มีคุณธรรมเป็นหลักในการใช้ชีวิต

คนเราเก่งอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีจุดยืนในการดำเนินชีวิตด้วย คนเก่งที่ไม่มีหลักในการใช้ชีวิต จะประสบความสำเร็จได้ยาก

สิ่งที่จะทำให้ความเก่งของเราเป็นที่ปรากฏอย่างยั่งยืน คือหลักหรือจุดยืนในการดำเนินชีวิต ซึ่งก็คือ

คุณธรรม ความดีงาม ในวันนึงถ้าคุณต้องตัดสินใจในสิ่งที่ยากลำบาก ลองถามตัวเองว่าอะไรคือจุดยืนของคุณ

7. มีทักษะพื้นฐาน

มีคนเคยบอกว่า ทักษะที่ทำให้สามารถไปไหนมาไหนในโลกใบนี้ได้ มี 3 อย่างคือ 1) ทักษะการทำอาหาร ไปที่ไหนก็ไม่อดต า ย

2) ทักษะดนตรี ที่นอกจากจะคลายเครียดแล้ว ยังช่วยหารายได้ได้อีกด้วย อย่างเช่นการเล่นดนตรีเปิดหมวก และ 3) ทักษะภาษาอังกฤษ

เพราะคนส่วนใหญ่ในโลกนี้ใช้ภาษาอังกฤษสื่อสาร แต่ในยุคนี้ต้องเพิ่มทักษะด้าน IT เข้าไปด้วย เพราะทุกวันนี้แทบทุกอย่าง

ล้วนเป็น Digital ใช้ Smartphone ในการหาข้อมูลต่างๆ ถ้าคุณเป็นคนที่เก่งทั้งภาษาและ IT จะทำให้คุณได้เปรียบในการทำงาน

8. อย่ากลัวงานยาก

นโปเลียน กล่าวไว้ว่า “Ability without opportunity is nothing” ความสามารถที่ปราศจากโอกาส คือความสูญเปล่า

คนเรามีโอกาสหลายอย่าง เช่น โอกาสจากองค์กรที่ดี ที่มีระบบพัฒนาคนให้เก่งขึ้น โอกาสที่ได้เจอนายดี สามารถโค้ช

และสร้างแรงบันดาลใจ แนะนำเทคนิคและพร้อมสนับสนุน โอกาสที่ได้ทำงานที่ท้าทาย งานยาก งานแบบนี้จะทำให้คนเราเติบโตขึ้น

เพราะคนเราจะเรียนรู้และเติบโต ตามโจทย์ที่เจอในชีวิต ดังนั้น จงอย่ากลัวงานยาก อย่ากลัวงานที่ไม่เคยทำ

อย่ากลัวงานที่เป้าหมายแทบจะเป็นไปไม่ได้ เพราะงานเหล่านี้จะทำให้คุณเก่งเหนือคนอื่นในรุ่นเดียวกัน

9. สร้างเครือข่ายเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้

สุภาษิตจีนกว่าวว่า “นกไม่มีขน คนไม่มีเพื่อน ปีนขึ้นที่สูงไม่ได้” การจะเติบโตในโลกไร้พรมแดน ที่องค์ความรู้เพิ่มขึ้นมหาศาล

จนคนไม่สามารถเรียนรู้ได้หมด เราจะพบการเรียนรู้แบบใหม่ๆ เช่น Community of Practice หรือ การสร้างเครือข่ายในการเรียนรู้

แบบชุมชนนักปฏิบัติ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างกัน เรื่องใดที่เป็นจุดเด่นจงถ่ายทอด เรื่องที่เป็นจุดอ่อนจงเรียนรู้

อย่าหวงความรู้ เพราะยิ่งเราถ่ายทอดเราจะยิ่งเก่งขึ้น อย่าอายที่ไม่รู้และกล้าที่จะขอเรียนรู้ เพราะนี่คือเส้นทางที่จะทำให้คุณเก่งขึ้น

ที่มา : บ ว ร นั น ท์ ท อ ง กั ล ย า