มีเทียนอยู่ 4 เล่ม และกำลังจะดับลง บรรยากาศในห้องนั้น เงียบจนได้ยินเสียงเทียนทั้ง 4 คุยกัน
เทียนเล่มที่ 1 ได้เอ่ยว่า
โลกเราเอาแต่แก่งแย่ง ชิงดีชิงเด่นกันไปมา ผู้คนคิดแต่จะเบียดเบียนกัน ไม่มีใครคิดจะปกป้องฉันเลย
ในฐานะที่ฉันเป็นเทียนแห่งสันติภาพ คงอยู่ต่อไปไม่ได้แล้ว จากนั้นเทียนเล่มที่ 1 ก็ดับลง
เทียนเล่มที่ 2 ก็ได้เอ่ยว่า
ฉันคือเทียนแห่งความเชื่อ คงหมดประโยชน์ที่จะส่องสว่างต่อไปแล้วสินะ
เมื่อผู้คนไม่มีความเชื่อใจกันแม้แต่น้อย จากนั้นสายลมได้พัดเทียนเล่มที่ 2 ดับไป
เทียนเล่มที่ 3 ได้เอ่ยว่า
ฉันคือเทียนแห่งความรัก ทุกวันนี้ ผู้คนกลับเอารักออกไปจากใจ ไม่มีความรักอันบริสุทธิ์ให้แก่กัน
มีเพียงความเห็นแก่ตัว ไม่มีใครเข้าใจความสำคัญของฉัน ฉันก็คงไม่มีกำลังพอที่จะส่องสว่างต่อไป
และแล้วเทียนเล่มที่ 3 ก็ดับลง เมื่อเทียนเล่มที่ 4 กำลังจะเอ่ยบ้าง ก็มีเด็กน้อยเปิดประตูเข้ามาในห้อง
ทันทีที่เห็นเทียนทั้ง 3 เล่มดับไป เด็กน้อยก็ร้องไห้ขึ้นมา
เทียนเล่มที่ 4 จึงได้เอ่ยขึ้นว่า
อย่าเสียใจไปเลย เพราะฉันเป็นเทียนแห่งความหวัง และฉันยังส่องสว่างอยู่
หยิบฉันขึ้นมา แล้วจุดที่เทียนทั้ง 3 เล่มสิ เมื่อเด็กน้อยนำเทียนแห่งความหวัง จุดไปที่เทียนทั้ง 3 เล่มนั้น
เทียนแห่งสันติภาพ เทียนแห่งความเชื่อ และเทียนแห่งความรัก ก็ได้สว่างขึ้นอีกครั้ง
นั่นเป็นเพราะความหวัง ที่ทำให้ชีวิตยังมีความหมาย
เพราะความหวังทำให้คนที่ป่วยไม่สบาย ยังสู้เพื่อมีชีวิตต่อไปได้
เพราะความหวัง ทำให้คนที่กำลังเผชิญกับปัญหา มีกำลังใจ ยืนหยัดมั่นคง
ฉะนั้น เมื่อไหร่ก็ตามที่มีใครสักคนเล่าความหวังให้ฟัง ขอให้รู้ว่านั่นอาจจะเป็นเสมือนเทียนเล่มสุดท้าย
อย่าดับความหวัง หรือความฝันของคนอื่น เพราะมันอาจเป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาเหลืออยู่
จงเป็นความหวัง เป็นกำลังใจ ให้แก่คนที่เรารัก และบุคคลรอบข้าง
เหมือนแสงเทียนที่ช่วยส่องสว่าง ในวันที่ชีวิตของเขามืดมน จนมองไม่เห็นหนทาง