เชื่อไหมว่า คนส่วนใหญ่นั้น โดนปลูกฝังความคิดผิดๆ มาโดยตลอด ลองอ่านดูว่ามันจริงหรือเปล่า?
3 ปี..เรียนอนุบาล
6 ปี..เรียนประถม
6 ปี..เรียนมัธยม
4 ปี..เรียนมหาวิทยาลัย
19 ปี..เรียนมาเกือบต า ย หมดเงินไปไม่รู้เท่าไร จบมาเป็นขี้ข้าห้องแอร์เงินเดือน 15,000!
เจ้านายบางคนก็นิสัยเสีย เพื่อนร่วมงานบางที่ก็ขี้อิจฉา ไหนจะต้องเจอลูกค้างี่เง่าอีก
ทนๆๆๆๆ ทนมา 3 ปี กะจะหาที่ทำงานใหม่ พอได้..อ้าว ที่ใหม่ก็ไม่ต่างจากที่เก่า เราแค่เปลี่ยนที่ทุกข์!
ตื่นมาแทนที่จะได้กินกาแฟ อ่านหนังสือที่ชอบก่อน ต้องรีบร้อนวิ่งไปหาเครื่องตอกบัตร
ตอนเที่ยง อยากกินข้าวร้านโปรดก็ไกลเกิน ทำได้แค่กินข้าวแกงข้างออฟฟิศ เพราะกลัวกลับเข้างานไม่ทันเวลา
อยากออกจากงานวันละ 3 เวลาหลังอาหาร แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะต้องผ่อนบ้าน ผ่อนรถ
ไหนจะค่าบัตรเครดิตอีก 2-3 ใบ ลาออกไปมีหวังกลับไปนั่งรถเมล์เหมือนเดิม
ชีวิตค่อยๆ เดินลงทะเลทีละก้าว ทีละก้าว..
ผ่านไป 10 ปี มีลูกยิ่งต้องระวัง ตกงานมาไม่ใช่เราคนเดียวที่อดต า ย
ในแต่ละวัน ต้องตื่นไปทำงานด้วยความจำยอม เจ้านายจะโขกสับยังไงก็ต้องทน
แต่ก็แปลกอีกนะ เจอมาขนาดนี้ เราก็ดันไปสอนลูกต่ออีกว่า “ตั้งใจเรียนนะลูก โตขึ้นจะได้ทำงานดีๆ”
สุดท้ายพอเราต า ยไป เราไม่ได้ทิ้งอะไรไว้ให้ลูกเลย แต่เราทิ้งลูกจ้างไว้ให้โลก ไว้ทำงานให้บริษัทคนอื่น
ขายแรง ขายเวลา ขายไอเดีย เพื่อให้คนอื่นรวย นั่นคือ ลูกเรา นั่นเอง!
คิดง่ายๆ นะ อาเฮียร้านจักรยานต า ยไป เขาทิ้งกิจการร้านจักรยานไว้ให้ลูก..ลูกรุ่นต่อไปเป็นเถ้าแก่
ส่วนลุงดำ ทำงานร้านจักรยานของอาเฮีย พอลุงดำต า ยไป ลุงดำจะมีอะไรทิ้งไว้ให้ลูก?
คนจะรวยหรือจะจน มันไม่ได้ต่างกันที่จำนวนเงิน มันต่างกันที่วิธีคิด
คุณอยากเห็นตัวเองตอนอายุ 60 เป็นยังไง มันขึ้นอยู่กับการคิด การทำในวันนี้
เลิกทำให้คนอื่นรวย มาทำให้ตัวเองรวยดีกว่า แล้วก็อย่ามาอ้างว่าค้าขายไม่เป็น ทำธุรกิจไม่เป็น
เพราะไม่มีใครทำเป็น ตั้งแต่ออกมาจากท้องแม่หรอก เรียนรู้สิครับ ศึกษาสิครับ
เราทุกคนก็เริ่มต้นเท่ากัน เริ่มจากคนไม่รู้ ไม่เป็น ไม่เก่ง เหมือนๆ กันนั่นแหละ
ฉะนั้น ให้ลองทำจากสิ่งที่ตัวเองชอบ สิ่งที่อยากทำ หรือทำแล้วมีความสุข
แรกๆ อาจจะเจ๊ง ก็ช่างมัน ยิ่งเจ๊งยิ่งเก่ง เหมือนหัดปั่นจักรยานนั่นแหละ ต้องมีล้มบ้าง
เลือกเอา จะล้มตอนนี้ ตอนที่ยังมีแรงลุกได้เร็ว หรือล้มตอนอายุ 60 ล้มมานี่เจ็บหนักนะครับ
ขอขอบคุณ : สิริทัศน์ สมเสงี่ยม , เรียบเรียงโดย : อ่านสนุก