วิธีเก็บเงิน 1 แสนบาท ทำให้ได้ใน 1 ปี

วิธีเก็บเงิน 1 แสนบาท ทำให้ได้ใน 1 ปี

10 วิธีการเก็บเงิน แบบที่มนุษย์เงินเดือนสามารถทำได้

แบ่งบัญชีใช้งานให้ชัดเจน

ส่วนนี้หลายคนเคยทำมาบ้างแล้ว แต่จะมีในบางเดือนที่เงินไม่พอใช้ จึงขอยืมเงินส่วนอื่นมาใช้ก่อน

แล้วส่วนใหญ่แน่นอนเลยว่า คงไม่ได้นำเงินส่วนที่ยืมมาคืนกลับที่เดิม ดังนั้น ถ้าอยากเก็บเงิน 1 แสนบาทให้ไวขึ้น

ต้องมีความเด็ดขาดมากกว่านี้ แยกบัญชีให้ชัดเจนเลย บัญชีเงินเก็บห้ามใช้ บัญชีเงินสำรอง

บัญชีรายจ่ายจำเป็นแต่ละเดือน บัญชีใช้จ่ายให้ความสุขตัวเอง บัญชีเงินใช้กินใน 1 เดือน เป็นต้น

เพื่อเราจะได้เห็นจำนวนเงินที่เราสามารถใช้ได้จริงมากขึ้น และส่วนนี้จะทำให้เราเป็นหนี้ได้น้อยลงด้วย

การเก็บเงิน 1 แสนบาทเป็นรายวัน

การเก็บเงินตามจำนวนวัน เป็นสิ่งที่นิยมทำกัน เพราะดูจากมูลค่าที่เก็บแล้วไม่ได้มากมายเลย

ตัวอย่างเช่น วันที่ 1 เก็บ 1 บาท วันที่ 2 เก็บ 2 บาท วันที่ 365 เก็บ 365 บาท ใน 1 ปี

จะได้เงินประมาณเกือบ 70,000 บาทเลย แต่เก็บสูงสุดเพียงแค่หลักร้อยเท่านั้น

หรือบางคนอาจมีวิธีการใช้เงินวันละ 300 บาท ถ้าเหลือก็นำมาหยอดกระปุก

ก็ถือว่าเป็นวิธีการเก็บเงิน 1 แสนบาท ฉบับมนุษย์เงินเดือนที่ไม่กดดันตัวเองมากเกินไป

การเก็บเงินแบบรายเดือน

ในบางคนการเก็บเงินรายวันไม่ถนัด เพราะค่อนข้างเก็บถี่เกินไป เลยเปลี่ยนวิธีการ

มาแบ่งเก็บเงินรวดเดียวเลยเป็นรายเดือน ถ้าต้องการเก็บเงินให้ได้ 1 แสนบาท

จะต้องทำการแบ่งเก็บประมาณเดือนละ 8,400 บาท อาจจะนำไปฝากธนบัตรรัฐบาล กองทุน

เพื่อเพิ่มมูลค่าของเงินให้เพิ่มขึ้น หรือบางคนน่าจะเคยเก็บกันเยอะ แบ่ง 10%-20% ของเงินเดือน

อันนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี อย่างน้อยเราก็ได้ตั้งใจเก็บ เมื่อทำต่อเนื่องเรื่อยๆ เงินก็จะมีมูลค่าเพิ่มถึง 1 แสนบาทได้

การเก็บเงิน 1 แสนบาทต้องใช้ความตั้งใจ

“ความตั้งใจ” ในการทำทุกสิ่งที่ตั้งใจไว้ ถ้าไม่ชัดเจนและแน่วแน่พอ มีหลายคนที่ล้มเลิก

หรือเลื่อนเป้าหมายในการเก็บเงินออกไป เพราะความตั้งใจไม่พอ หรือมีเรื่องจำเป็นที่ต้องใช้เงิน

การเก็บเงินจริงๆ แล้วมีหลายวิธีการมาก และก็ไม่ได้ยากเกินกว่าจะทำได้ อยู่ที่ตัวคุณเองมีใจที่จะทำให้สำเร็จหรือเปล่า

อย่างไรก็ตาม การเก็บเงินต้องไม่เครียด หรือกดดันตัวเองมากเกินไป คุณต้องมีความสุข และสนุกกับการเก็บเงินก่อน

เพราะถ้าคุณเลือกวิธีที่ไม่เหมาะกับคุณ และยิ่งมีความมุ่งมั่นไม่ชัดเจน การเก็บเงินในครั้งนี้ ก็จะอยู่กับคุณไม่ได้นาน

ลดการซื้อของไม่คุ้มการใช้งาน

ข้อนี้เชื่อได้เลยว่าหลายคนเป็น เวลาต้องการซื้ออะไรสักอย่าง ต้องเลือกที่ดีที่สุด หรือบางคนซื้อไว้เผื่อได้ใช้งานจริงๆ

ซึ่งบางครั้งอาจจะเกินความจำเป็น ยิ่งกับพวกสินค้าไอที โทรศัพท์ หรืออุปกรณ์เสริมต่างๆ แต่ละชิ้นราคาหลักหมื่นขึ้นทั้งนั้นเลย

เมื่อมี 1 อย่าง อย่างที่ 2, 3 และ 4 ต้องตามมา ซื้อแบบฟังก์ชั่นครบจัดเต็ม แต่ความจำเป็นของคุณจริงๆ ได้ใช้ขนาดนั้นหรือไม่

ใช้งานได้ 100% ของเงินที่จ่ายไปไหม แต่ถ้าใครคิดว่าบริหารเงินไหว หาจากส่วนอื่นก็ได้ ตรงจุดนี้ก็แล้วแต่ความสะดวกของแต่ละคนในการเก็บเงิน

อย่าให้รางวัลตัวเองมากเกินไป

หลายครั้งมักจะได้ยินบ่อยมากกับคำที่ว่า “ทำงานเหนื่อยขนาดนี้ ขอนิดนึงให้รางวัลตัวเองหน่อย” ความจริงก็ไม่ได้ผิดอะไร

ให้ได้ แต่ถ้าคุณมีความตั้งใจที่จะเก็บเงินจริงๆ ก็ลองเปลี่ยนจากการซื้อของให้รางวัลตัวเอง เปลี่ยนมาเป็นเงินเก็บเข้าบัญชีดู

เว้นแต่อยากได้มากๆ รอช่วงสินค้าลดราคา ก็ไม่ได้เสียหายอะไร ส่วนนี้ถ้าปรับได้ก็จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเก็บเงิน

เก็บเงินวันละ 275-300 บาท

ส่วนนี้เป็นอีกหนึ่งวิธีของการเก็บเงินรายวัน ถ้าคนที่มีฐานเงินเดือนค่อนข้างสูงหน่อย ก็อาจเก็บเป็นค่าแรงขั้นต่ำไป

แต่ถ้าฐานเงินเดือนไม่ได้สูงมาก ก็อาจจะหาเป็นรายได้เสริม เพื่อให้จำนวนเงินมีมากขึ้น หรือแบ่งครึ่งเพื่อเก็บก็ได้

ถึงระยะเวลาอาจจะนานขึ้นหน่อย แต่อย่างน้อยเราได้เริ่มลงมือทำ และทำอย่างต่อเนื่อง การเก็บเงิน 1 แสนบาทก็อยู่แค่เอื้อมมือ

สลับทำอาหารกินเองบ้างก็ได้

อาหารในชีวิตประจำวันนี้ ถ้าซื้ออย่างราคาถูกเลย ก็อยู่ที่ประมาณ 50 บาท 1 วัน ก็จะตกประมาณ 150 บาท

แล้วถ้า 1 ปี ก็จะอยู่ที่ประมาณ 18,250 บาท ซึ่งส่วนนี้เรายังไม่รวมค่าบุฟเฟ่ต์ และค่าเฟ่ขนมหวานนะ

แต่ในทางกลับกัน ถ้าใครสะดวกพอที่จะทำอาหารกินเองได้ 150 บาท ก็สามารถซื้อเนื้อสัตว์ได้เป็นกิโล

สามารถยืดระยะเวลาในการใช้เงินส่วนนี้ไปได้ ทำให้เราประหยัดขึ้นได้หลายบาทเลยทีเดียว

ชงกาแฟหรือน้ำหวานเองบ้างก็ได้

คล้ายกับทำอาหาร เรื่องของเครื่องดื่มก็เช่นกัน บางคนติดกาแฟหรือน้ำหวาน ต้องซื้อกินทุกวันเพื่อเติมความสดชื่น

ในราคากลางที่ส่วนใหญ่ซื้อกัน ก็อยู่ที่ประมาณ 60-120 บาทต่อแก้ว ถ้าเรากินแบบนี้ทุกวันตลอดระยะเวลา 1 ปี

จะเป็นเงินประมาณ 22,000 บาท อาจจจะลองปรับมาเป็นทานของฟรีที่บริษัท หรือซื้อเป็นแพ็คมาชงกินเองบางสลับกัน

เพื่อไม่ให้เกิดความกดดัน หรือความอยากมากขึ้น แต่หากใครไม่สะดวกจริงๆ ลองเปลี่ยนมากินราคาที่ถูกลงกว่านี้หน่อย

ทุกวันนี้ร้านที่ราคาไม่แพง แก้วละ 20-30 บาท อร่อยถูกปาก ก็มีให้เห็นหลายร้านอยู่

สายปาร์ตี้ สูบบุหรี่ ชอบเข้าสังคม เที่ยวน้อยลงบ้างก็ได้

เข้าใจว่าทำงานมาหนัก เหนื่อย อยากพักผ่อน หาความสุขสนุกเข้าตัวบ้าง ก็ถือว่าไม่ได้เป็นเรื่องที่เสียหายอะไร

แต่บางคนเป็นต้องเจอกันทุกศุกร์ จ่ายเงินแต่ละรอบก็เล่นเอาหนักหน่วง ถ้าลดค่าใช้จ่ายในเรื่องนี้ลงได้บ้าง

ก็จะมีส่วนของเงินเก็บให้ถึง 1 แสนได้เร็วขึ้น และนี่คือ 10 วิธีการเก็บเงินให้ได้ 1 แสนบาท ภายในระยะเวลา 1 ปี

ซึ่งเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ ไม่ได้ไกลตัวเลย แต่อย่างที่บอก การเก็บเงินต้องเลือกวิธีการที่เราสะดวก

และเหมาะสมกับการดำรงชีวิตของแต่ละคน เพื่อให้สามารถเก็บได้นาน และมีความสุขในการที่จะเก็บเงิน

ถึงแม้ว่าการเก็บเงินอาจใช้ระยะเวลาเกิน 1 ปี แต่อย่างน้อยเพียงแค่เราเริ่มเก็บไปเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง

ไม่นานทุกคนก็จะเก็บเงิน 1 แสนบาทได้ ความฝันของตัวเองก็จะอยู่ไม่ไกล

ที่มา : l e o w o o d