สำหรับเหล่าวัยรุ่น ที่เพิ่งเรียนจบหมาดๆ หลายคนมีความคิดที่จะสร้างรากฐานที่ดีให้ชีวิต
แน่นอนว่าการสร้างรากฐานที่มั่นคงในชีวิต ไม่มีทางลัด ยิ่งเริ่มเร็วแค่ไหนยิ่งได้เปรียบ
และมีโอกาสประสบความสำเร็จได้เร็วกว่า แต่ก่อนที่จะไปได้ถึงจุดนั้น การวางแผนทางด้านการเงินที่ดี
เป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ซึ่งการวางแผนที่นี่แหละจะเป็นตัวช่วยให้เรามีกฎระเบียบในการเก็บออมเงิน
และเริ่มเข้มงวดกับตัวเองมากขึ้น การวางแผนทางการเงินไม่ใช่ทางลัด แต่จะเป็นตัวช่วยลดระยะเวลา
ในการเก็บออมเงิน เพื่อให้คุณเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ และช่วยลดข้อผิดพลาดได้
1. วางแผนการใช้เงิน
ก่อนจะวางเป้าหมายการใช้เงินเพื่อสร้างรากฐาน ควรวางลำดับเป้าหมายและกำหนดระยะเวลาในการใช้เงินก่อน
โดยการวางแผนการใช้เงินด้วยช่วงอายุ ว่าช่วงอายุเท่าไหร่ มีเป้าหมายจะมีอะไรเป็นของตัวเอง
เช่นช่วงอายุ 25 ปี เริ่มดาวน์รถในราคา 1 แสนบาท เป็นต้น ซึ่งการกำหนดเป้าหมายเป็นเรื่องที่ดี
แต่ไม่ควรกดดันตัวเองมากเกินไป โดยเป้าหมายของแต่ละคนก็แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือคอนโด
การดาวน์บ้านหรือคอนโด ควรมีเงินเก็บจำนวนหนึ่ง โดยปกติแล้วควรมีสำรองไว้ประมาณ 15-20%
ซึ่งการเลือกบ้านหรือคอนโดสักแห่ง ไม่ควรเลือกที่เกินกำลังผ่อนต่อเดือน
โดยปกติแล้วการผ่อนต่อเดือน ไม่ควรเกิน 40% ของรายได้ในแต่ละเดือน
รถ ปกติแล้วต้องมีเงินดาวน์ไม่ต่ำกว่า 20% ของราคารถ และควรคำนึงถึงราคาที่ผ่อนรายเดือนด้วย
ไม่ควรเกิน 40% ของรายได้ต่อเดือน การจะผ่อนที่ราคาสูง ควรเช็คสภาพการเงินของตนเองให้ดี และไม่ควรเลือกราคาเกินตัว
2. ออมเงินไว้เผื่อฉุกเฉิน
เป็นเงินออมที่เก็บแยกออกมาจากข้อแรก นั่นก็คือเงินออมไว้เพื่อยามฉุกเฉิน เชื่อว่าหลายคนอาจมองข้าม
การเก็บเงินไว้สำหรับใช้ในยามฉุกเฉิน ควรเก็บเงินไว้เพื่อใช้ในส่วนนี้ประมาณ 5-10% จากรายได้ทั้งหมด
การมีเงินในส่วนนี้จะช่วยให้อุ่นใจเมื่อมีเหตุฉุกเฉิน เช่น ค่าซ่อมแซมบ้าน ค่ารักษาพยาบาล รวมถึงสำรองไว้
เมื่อต้องโยกย้ายงาน ฯลฯ เก็บเงินส่วนนี้ตั้งแต่เนิ่นๆ เวลามีเหตุฉุกเฉินจะได้ไม่เดือดร้อนไปถึงเงินออมของเรา
3. หารายได้ช่องทางอื่นบ้าง
ในยุคที่สื่อสังคมออนไลน์เป็นที่นิยม และคนไทยในปัจจุบันนิยมซื้อขายผ่านช่องทางออนไลน์เป็นส่วนใหญ่แล้ว
การสร้างรายได้จากช่องทางออนไลน์ ถือว่าเป็นวิธีที่ไม่ยุ่งยาก และใช้ต้นทุนต่ำกว่ายุคก่อนๆ เชื่อว่าวัยรุ่นยุคใหม่ทุกคน
ต่างคุ้นเคยกับสื่อออนไลน์เป็นอย่างดี ซึ่งช่องทางนี้แหละที่จะเป็นรายได้เสริมนอกเหนือจากงานประจำได้
บางคนสามารถหารายได้จากการซื้อขายของออนไลน์ ได้รายได้เท่ากับเงินเดือนประจำ หรือมากกว่าได้เลยทีเดียว
รวมถึงสามารถรับงานฟรีแลนซ์ เพื่อสร้างรายได้เสริมได้อีกช่องทางหนึ่ง เช่น งานกราฟฟิคดีไซน์เนอร์ฟรีแลนซ์ งานเขียนฟรีแลนซ์ ฯลฯ
4. กำหนดรายจ่าย
ค่าใช้จ่ายรายเดือนทั้งหลายก็ต้องลิสต์ไว้ด้วย การเช็คลิสต์และแบ่งหมวดหมู่ค่าใช้จ่ายต่างๆ จะช่วยให้เราระมัดระวังการใช้เงิน
และกำหนดค่าใช้จ่ายได้ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งค่าใช้จ่ายใหญ่ๆ แบ่งตามหมวดได้ดังนี้ ค่าผ่อนรถ ค่าผ่อนบัตรเครดิต ฯลฯ ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
5. แบ่งเงินไว้เก็บ
การวางแผนการเงินเป็นเรื่องสำคัญ ขั้นนี้คือพื้นฐานในการเก็บออมเงิน คือการวางแผนรายรับรายจ่ายให้ดี
เชื่อว่าหลายคนอาจมองข้ามการทำบัญชีรายจ่ายส่วนตัว เป็นวิธีที่จะช่วยให้เราระมัดระวังการใช้จ่ายได้มากขึ้น
ยกตัวอย่างเช่น ได้เงินเดือนมา อันดับแรกก็ทำการแยกบางส่วนไปไว้ในบัญชีเงินออม อาจจะแบ่งมาประมาณ 15-20%ของรายได้
แล้วส่วนที่เหลือก็คือส่วนที่ไว้ใช้ในชีวิตประจำวัน หรือกำหนดค่าใช้จ่ายต่อวัน ว่าวันนึงจะใช้จ่ายเท่าไหร่ เป็นต้น
6. เงินออม
การที่เราลิสต์ค่าใช้จ่ายอย่างละเอียดนี้ ถือเป็นการวางแผนทางการเงินเบื้องต้นที่นำไปใช้ได้จริง และช่วยลดปัญหา
ทางการเงินต่างๆ ที่อาจตามมาได้เยอะเลยทีเดียว ทั้งนี้หนี้สินในแต่ละเดือน ไม่ควรเกิน 40% ของรายได้ต่อเดือน
7. การสร้างครอบครัว
ควรเก็บเงินก้อนสำหรับการสร้างครอบครัวโดยเฉพาะ เพราะการจัดงานแต่งงานสักครั้ง อาจจะใช้เงินสูงถึงหลักแสนเลยทีเดียว
รวมทั้งควรเตรียมความพร้อมทั้งค่าคลอด ค่าเลี้ยงดู ควรมีรายได้สม่ำเสมอ การลงทุนเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี
ที่จะช่วยให้เงินงอกเงย และสามารถสร้างความมั่นคงได้ เริ่มลงทุนง่ายๆ ด้วยการเก็บเงิน 10-15% จากรายได้ทั้งหมดต่อเดือน
เพื่อนำมาต่อยอดลงทุน ซึ่งการลงทุนแต่ละประเภทก็มีความเสี่ยงที่แตกต่างกันออกไป ควรเช็คความพร้อมของตัวเองให้ดี
การวางแผนการใช้เงินสำหรับวัยรุ่นนี้ เป็นเรื่องใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้าม ยิ่งในช่วงเศรษฐกิจในทุกวันนี้แล้ว
ยิ่งต้องวางแผนให้ดี ซึ่งการวางแผนการเงินนี้จะช่วยให้เราเห็นเป้าหมาย ระมัดระวังการใช้เงิน และกำหนดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น
ที่มา : อิ ห ยั ง ว ะ